‘รมว.พาณิชย์’ นำทีมลุยสงขลา-ยะลา ช่วยทันที! เพิ่มราคารับซื้อทุเรียน เล็งหาตลาดใหม่ทั่วโลก

พาณิชย์พึ่งได้! “จตุพร” นำทีมลุยสงขลา-ยะลา ช่วยชาวสวนเบตงเพิ่มราคารับซื้อทุเรียนทันที! พร้อมหนุนส่งออกทุเรียนสด-ทุเรียนแช่แข็ง ขยายตลาดใหม่ทั่วโลก

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในจังหวัดสงขลาและจังหวัดยะลา เพื่อติดตามศักยภาพการผลิตและการส่งออกสินค้าสำคัญของภาคใต้ ทั้งการรับซื้อทุเรียนสดและการส่งออกทุเรียนแช่แข็ง ซึ่งเป็นสินค้าหลักในการสร้างรายได้และการส่งออกของประเทศ พร้อมเดินหน้า ขับเคลื่อนนโยบาย “พาณิชย์พึ่งได้” และ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย

จุดแรก นายจตุพรได้นำคณะเยี่ยมชม บริษัท ห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งรายใหญ่ ภายใต้แบรนด์ SEA KING, SEA CHAMPION, SEA FLOWER และ MERMAID ซึ่งตั้งแต่ปี 2566 ได้ขยายธุรกิจสู่การผลิตทุเรียนแช่แข็งเต็มรูปแบบ ผ่านบริษัทในเครือ “ฟู้ด ฟิวเจอร์ จำกัด” ในปี 2568 บริษัทฯ รับซื้อทุเรียนกว่า 5,000 ตัน จากหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีกำลังการผลิต 100 ตันต่อวัน และสามารถเก็บรักษาทุเรียนแช่แข็งได้ถึง 10,000 ตัน โดยตลาดจีนยังคงเป็นตลาดหลัก พร้อมเดินหน้าขยายสู่ตลาดใหม่ทั่วโลก ซึ่ง นายจตุพรได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิต เริ่มจากจุดรวบรวมผลทุเรียนสด การแกะเนื้อทุเรียนโดยเน้นทุเรียนที่สุกจัด การแช่แข็ง การบรรจุลงกล่อง และเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ -22 องศาเซลเซียส

จากนั้น คณะได้เดินทางไปยัง จ.ยะลา เยี่ยมชม “ล้งโกชาน” ซึ่งถือเป็น จุดรับซื้อทุเรียนใหญ่ที่สุดของจังหวัด มีกำลังรับซื้อเฉลี่ยวันละ 180 ตัน หรือประมาณ 7,000 ตันต่อปี โดย ทุเรียนจากเบตงขึ้นชื่อเรื่อง “ทุเรียนสะเด็ดน้ำ” ที่มีรสชาติหอมเป็นเอกลักษณ์ และได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างประเทศ
โกชาน หรือ นายประเสริฐ คณานุรักษ์ เจ้าของล้ง เปิดเผยว่า ช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา ล้งไม่ได้ทำหน้าที่เพียงผู้รับซื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาให้เกษตรกรเรื่องการตั้งราคาและช่วงเวลาการตัดผลผลิต เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและสร้างความมั่นใจให้ชาวสวนว่ามีตลาดรองรับอย่างต่อเนื่อง โดยเครือข่ายการส่งออกครอบคลุมทั้งจีน ออสเตรเลีย และยุโรป ผ่านผู้ประกอบการรายใหญ่หลายราย

ด้าน นายจตุพร ยังได้พบปะพูดคุยกับชาวสวนในพื้นที่ พร้อมรับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิต ทั้งค่าปุ๋ยและค่ายาฆ่าแมลง และยืนยันว่าจะนำ “สินค้าธงเขียว” ราคาถูกเข้ามาช่วยลดภาระต้นทุนให้เกษตรกร นอกจากนี้ ยังได้ประสานผู้ประกอบการให้ปรับราคารับซื้อทุเรียนในพื้นที่เบตงจาก 85 บาทเป็น 90 บาทต่อกิโลกรัมทันที โดยผู้รับซื้อได้ประกาศเปลี่ยนป้ายราคา ณ จุดรับซื้อ ต่อหน้าชาวสวนที่มาส่งทุเรียนในวันเดียวกัน
“ผมชื่นชมล้งโกชานที่ไม่ใช่แค่ผู้รับซื้อ แต่เป็นที่ปรึกษาและคู่คิดให้เกษตรกร การที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายตกลงปรับราคาร่วมกันต่อหน้าชาวสวน เป็นภาพที่สะท้อนความจริงใจและการช่วยเหลือกันแบบไทย ๆ วันนี้ผมและพี่น้องชาวสวนแฮปปี้ไปด้วยกันครับ” นายจตุพร กล่าว

รมว.พาณิชย์ ย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์พร้อมเดินหน้าขยายตลาดใหม่ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา ผ่านกิจกรรมเจรจาการค้า งานแสดงสินค้านานาชาติ และการทำตลาดเชิงรุก เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการค้าให้ผู้ประกอบการไทย เป้าหมายคือทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่า พาณิชย์พึ่งได้จริง
โดยข้อมูล การส่งออกทุเรียนของไทย (มกราคม – มิถุนายน 2568) ปริมาณการส่งออกทั้งหมด 673,668 ตัน มูลค่า 2,918.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 70,802.02 ล้านบาท) หดตัวร้อยละ 2.67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 สำหรับสัดส่วนการส่งออกสินค้า แบ่งเป็น ทุเรียนสด: 90.67% ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง: 9.01% ทุเรียนกวนและอบแห้ง: 0.31% โดยตลาดหลัก ได้แก่ 1.จีน (96.77%) 2.ฮ่องกง (0.83%) และ 3.มาเลเซีย (0.78%) ตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงได้แก่ มาเลเซีย (ทุเรียนสด +1,984%) สหรัฐอเมริกา (ทุเรียนแช่เย็น/แช่แข็ง +150%) และ ไต้หวัน (ทุเรียนแช่เย็น/แช่แข็ง +143%) เป็นต้น
สำหรับประชาชนและผู้ประกอบการที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169.


