DITP ชี้เป้าส่งออก ‘อาหารพยาบาลผู้สูงอายุ’ ขายญี่ปุ่น ป้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้น

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยผลสำรวจต “ลาดอาหารพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ” ในญี่ปุ่น ชี้! มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ป้อนความต้องการของผู้สูงวัย รวมถึงผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เด็ก และผู้พิการ แนะผู้ผลิตไทยวางแผนผลิตเพื่อส่งออกไปขาย ย้ำ! ควรศึกษาแนวโน้มการเติบโต เพื่อนำมาใช้วางแผนผลิตและขายสินค้า

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้มอบนโยบายให้ “ทูตพาณิชย์” ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายของ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ล่าสุด ได้รับรายงานจาก นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ถึงการสำรวจ ตลาดอาหารพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ และโอกาสในการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวเพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น รวมไปถึงการศึกษาแนวโน้มการเติบโตของตลาด และนำมาปรับใช้รองรับสังคมสูงวัยของไทยในอนาคต

โดย “ทูตพาณิชย์” ได้รายงานข้อมูลว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความต้องการอาหารการพยาบาลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เนื่องจากการขาดแคลนแรงงานในโรงพยาบาลและสิ่งอำนวยความสะดวก ความสนใจจึงมุ่งเน้นไปที่อาหารที่ได้รับการแปรรูป เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นโภชนาการที่ปลอดภัยและมีคุณค่าเพียงพอ รวมถึงอาหารยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้ที่มีปัญหาในการเคี้ยว หรืออาหารเฉพาะโรคสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เด็ก และผู้พิการ ทำให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันตลาดอาหารพยาบาลมีมูลค่าประมาณ 120,000 ล้านเยน

ทั้งนี้ สมาคมอาหารพยาบาลแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Care Food Conference) ได้รวบรวมสถิติการผลิต UDF (Universal Design Food) ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีการผลิตปริมาณ 72,000 ตัน เพิ่มขึ้น 5.2% มูลค่า 56,336 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 10.0% โดย UDF แบ่งได้เป็น 4 ประเภท ตั้งแต่เคี้ยวง่าย ไปจนถึงไม่ต้องเคี้ยว และยังมีการแข่งขันการพัฒนาอาหารพยาบาล ล่าสุด เดือนมิถุนายน 2568 มีผู้สมัครแข่งขัน 148 ราย มีผลิตภัณฑ์ 36 รายการ ได้รับรางวัล อาทิ สารปรับปรุงเนื้อสัมผัสแบบผงที่ยับยั้งของเหลวแยกตัวออกมาจากเจลหรือของแข็งกึ่งเหลวเมื่อเวลาผ่านไป ช่วยลดความรู้สึกในปากและป้องกันการสูญเสียสารอาหารไปพร้อมกับการหยดของของเหลวในอาหาร และน้ำมันที่นิยมใช้ในอาหารเพื่อสุขภาพ เพียงแค่เติมลงในโจ๊กหรือซุปเพื่อเพิ่มพลังงาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการพลังงานเร็ว

น.ส.สุนันทา กล่าวว่า จากการติดตามพบว่าปัจจุบันอาหารพยาบาลส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นและไม่มีแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ แต่ก็มีอาหารพยาบาลหลายยี่ห้อที่ผลิตในไทยแล้ว เช่น ปลาแช่แข็งปรุงสุก UDF ของ Maruha Nichiro “วัสดุใหม่นุ่ม” โดยรสชาติและกลิ่นยังคงเดิม และผลิตภัณฑ์จาก บริษัท ยามาได จำกัด ได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ของญี่ปุ่น ให้เป็นอาหารสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ และมีการนำเข้าไก่และผักแช่แข็งจากไทย และอาหารไทยหลายชนิดที่ใช้ในสถานดูแลผู้สูงอายุ จึงเป็นโอกาสในการส่งออกของไทย หากสามารถตอบสนองความต้องการโดยละเอียด เช่น การถอดก้างปลาออก และการทำให้เนื้อนุ่มลง
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุในญี่ปุ่นที่ยังคงแข็งแรงและมีสุขภาพดี เริ่มสนใจอาหารต่างประเทศมากขึ้น นอกจากอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม โดยมี สถานดูแลผู้สูงอายุหลายแห่ง พยายามสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุด้วยอาหาร เช่น การนำเสนออาหารนานาชาติ ซึ่งหากผู้ส่งออกไทยสามารถพัฒนาอาหารไทยให้เป็นอาหารสำหรับผู้สูงอายุได้ ก็จะมีโอกาสส่งออก ขณะเดียวกัน ประเทศไทยกำลังเข้าสู่วัยชรา โดยในปี 2565 มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 22.0% การรับรู้ถึงการวิจัย การพัฒนา และแนวโน้มของอาหารเพื่อการพยาบาลในญี่ปุ่น ทำให้ผู้ผลิตไทยเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งถึงความต้องการอาหารแปรรูปในอนาคตและนำมาวางแผนในการผลิตและการจำหน่ายได้
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169.