ไม่สมราคาคุย! หลายคนส่งเสียงในทำนอง “ผิดหวังว่ะ!”

สิ่งที่ นายฮุน เซน “ผู้นำจิตวิญญาณ” ของคนกัมพูชา ได้ฉายหนังตัวอย่างเอาไว้ ว่าจะ เปิดโปง…แฉเรื่องลับๆ ของ อดีตผู้นำไทย “ทักษิณ ชินวัตร” ที่วันนี้…ได้กลายเป็น “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” ไปแล้ว

เนื่องจาก นายฮุน เซน เชื่อสนิทใจว่า…ผลประโยชน์จากธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งบ่อนกาสิโน การพนันผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ฯลฯ ซึ่ง ยูเอ็น ระบุว่า…กัมพูชาเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมทางเทคโนโลยีข้ามชาติที่ใหญ่สุดในโลก สร้างความเสียหายทางการเงินได้มากถึงปีละกว่า 6 แสนล้านบาท

โดยรายได้ส่วนนี้ มีที่ไหลเข้ากัมพูชาเป็นจำนวนเงินมหาศาล มากถึงร้อยละ 60 ของงบประมาณแผ่นดินของกัมพูชา หรือราว 4 แสนล้านบาทต่อปี

แต่ต้องสูญเสียไปเพราะ นายทักษิณ และคนในตระกูลชินวัตร ได้สร้างเงื่อนไขใหม่ขึ้นมา…จากการ สั่งปิดด่านชายแดนของ 2 ประเทศ โดยเฉพาะ “แหล่งหลัก” อย่าง…ด่านอรัญประเทศ-ปอยเปต

พูดง่ายๆ รายได้รายวันที่เคยมี วันละกว่า 1,000 ล้านบาท จำต้องหายไปในพริบตา!

โกรธมาก…โกรธจนต้องเปิดยุทธการ “แฉสด!”

แต่จากการเฝ้าดู ไลฟ์สด ตลอด 4 ชม.เต็ม ระหว่างการกล่าวปราศรัยที่จังหวัดพระวิหาร ภายหลังแปลความจากภาษาเขมรเป็นไทย

คนไทยและทั่วโลกพูดตรงกัน…มันไม่ตรงปก!!!

“ทีมข่าวการเมืองยุทธศาสตร์ออนไลน์” ไม่ขอเสียเวลาไปพูดถึงสิ่งที่ “เจ้าพ่อธุรกิจผิดกฎหมาย” แห่ง สแคมโบเดีย ดินแดน…รัฐมิจฉาชีพ คนนี้ พูดได้ไม่ตรงปก!

แต่อยากไปโฟกัสเรื่องอื่น ที่น่าสนใจกว่าและหักล้างกับแผนการสร้างความหวาดหวั่นสั่นประสาทคนไทย

โดยเฉพาะ เหตุการณ์ที่ชาวบ้าน เกษตรกร ห้างร้านต่างๆ ทั้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และคนต่างถิ่นจาก จ.จันทบุรี ที่ต่างก็นำ ข้าวของเครื่องใช้ สินค้าอุปโภค บริโภค และสิ่งของที่จำเป็น รวมถึงผลไม้และผลไม้แปรรูป จำนวนมาก มามอบให้กับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ณ สโมสรร่วมเริงไชย กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

เพื่อนำไปมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องทหารและกำลังพลที่ประจำอยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ช่างเป็นภาพที่แตกต่างในสิ่งที่เกิดขึ้นกับทหารและประชาชนกัมพูชา ชนิด “ฟ้าสูงและเหวต่ำ”

ทหารไทยตามแนวชายแดน รวมถึงคนไทยในเมืองและพื้นที่ส่วนต่างๆ ต่างก็อยู่ดี มีกิน มีใช้ แม้เกียรติและศักดิ์ศรี อาจดูพร่องไปบ้างในยุคของ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร แต่ก็ยังมากกว่าทหารและประชาชนกัมพูชาอยู่ดี

ที่สำคัญ…คำพูดบางตอนของ พล.ท.บุญสิน ที่บอกกับบรรดา “คนใจดี” เหล่านั้นว่า…

ตนและทหารในพื้นที่ตอนนี้มีขวัญกำลังใจดีมาก ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะถ้าทหารเหนื่อยคงไม่มีใครดูแลประเทศชาติบ้านเมือง

อีกตอนหนึ่ง…ในฐานะประธาน RBC (การประชุมในระดับแม่ทัพของทั้งสองฝ่าย) ฝั่งไทย ตนได้ยื่นแจ้งไปแล้วว่าดินแดนบริเวณที่ฝั่งกัมพูชาขุดคูเลตเข้ามาถึง 150 เมตรนั้น เป็นดินแดนของประเทศไทย

พูดง่ายๆ หากฝั่งกัมพูชา ไม่ยอมมาพูดคุยในระดับทวิภาคีล่ะก็ การเปิดพรมแดนไทย-กัมพูชา จะไม่มีทางเกิดขึ้น

แต่อย่างว่า…ฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะ นายฮุน เซน รู้ดีว่า…ถึงจะเปิดด่านฯ แต่ฝั่งไทย…คงไม่หยุดเรื่องการปรามปรามธุรกิจผิดกฎหมายแน่

ไหนยังมีแนวคิด…ตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และระงับการส่งออกน้ำมันฯ แม้กระทั่ง ไม่อนุญาตให้คนเขมร เข้ามาเติมน้ำมันในฝั่งไทย

เปิดด่านไป ก็ไม่ทำให้ธุรกิจผิดกฎหมายในฝั่งกัมพูชา กลับไปเหมือนเดิมได้อีก

เลวร้ายกว่านั้น…การที่ นายกฯแพทองธาร ประกาศขอให้ประเทศไทยเป็น “เจ้าภาพหลัก” ในการเดินหน้าปราบปราม…อาชญากรรมทางเทคโนโลยีข้ามชาติ ซึ่งก็ไม่ต่างกับ การประกาศสงครามกับกัมพูชาเต็มๆ

แถมยังดึงเอา นานาอารยประเทศมาเป็น “แนวร่วม” เสียอีก ไม่ว่าจะเป็น…สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ชาติส่วนใหญ่ในอาเซียน ที่ต่างก็ยินดีและพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย

ล่าสุด จากการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ระหว่าง…นายกฯแพทองธาร กับ ประธานาธิบดี เอมานูว์แอล มาครง แห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันนี้ (27) ก็มีประเด็นให้ทาง “ผู้นำจิตวิญญาณ” ของคนกัมพูชา ต้องร้อนๆ หนาวๆ

ไม่เพียง ผู้นำ 2 ประเทศ พร้อมจะยกระดับเพื่อกระชับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน หากแต่ รัฐบาลฝรั่งเศสก็พร้อมจะสนับสนุนไทย ในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์

ถึงตรงนี้ แผนการเขย่า! ประเทศไทยของ นายฮุน เซน อาจไม่สมประสงค์สักเท่าใด?

ในทางกลับกัน เป็นฝั่งกัมพูชา ภายใต้การเงาของ นายฮุน เซน และ “ตระกูลฮุน” เสียมากกว่า ที่อาจต้อง…สูญเสียความน่าเชื่อถือในทางการเมืองระหว่างประเทศ สูญเสียพันธมิตร และสูญเสียผลประโยชน์จำนวนมหาศาลจากธุรกิจสกปรก

เล่นกับ…น.ส.แพทองธาร และนายทักษิณ ยังไม่เท่าไหร่? แต่เล่นกับ…กองทัพไทยและคนไทย! นาทีนี้…นายฮุน เซน และ “ตระกูลฮุน” คงรับรู้แล้วว่า…

มันได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ!!!.