“เอกนัฏ” บุกโกดังกลางป่าทลาย “แก๊งยางเถื่อน” ยึดยางเสื่อม 7.45 หมื่นเส้น มูลค่ากว่า 223 ล้านบาท

“เอกนัฏ” ส่ง ”ทีมสุดซอย“ บุกตรวจโกดังซุกป่ายาง หลังชาวบ้านร้องเรียนลอบดัดแปลงยางรถยนต์เสื่อม ก่อนนำออกจำหน่าย ผงะ! กองยาง 7.45 หมื่นเส้น มูลค่ากว่า 223 ล้านบาท พบโมเดลธุรกิจคลาสสิก “เจ้าของคนจีน“ ที่เปิดแน่บออกนอกประเทศไปแล้ว
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับการร้องเรียนแจ้งเบาะแสขบวนการลักลอบนำยางรถยนต์เสื่อมสภาพมาดัดแปลงก่อนนำออกจำหน่าย ซึ่งหากผู้ซื้อนำไปใช้เป็นยางรถยนต์ก็เสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิต จึงได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันท์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และหัวหน้าคณะตรวจการณ์สุดซอย หรือ “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโดยเร่งด่วน โดยได้รับรายงานเบื้องต้นว่า พบการจัดเก็บยางรถยนต์ผิดกฎหมายในลักษณะโกดังซุกซ่อนภายในป่าสวนยาง และมีคนงานจำนวนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งได้วิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
“ทีมสุดซอย ตรวจพบกองยางรถยนต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะถูกเจียรขัดผิวแก้มยางทั้ง 2 ด้าน เพื่อลบชื่อยี่ห้อ และวันผลิตยางออกบางตัวอักษร ซึ่งเป็นเจตนาปกปิดอำพรางข้อมูลบนยางอย่างชัดเจน จึงได้ทำการยึดอายัดทั้งหมดประมาณ 74,504 เส้น มูลค่าโดยประมาณเส้นละ 3,000 บาท รวมมูลค่าอายัดทั้งสิ้น 223,512,000 บาท“ นายเอกนัฏ ระบุ

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า สถานที่กองเก็บยางรถยนต์ผิดกฎหมายนี้เป็นลักษณะโกดังซุกซ่อนกลางป่ายาง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง จากการตรวจค้นภายในตู้สำนักงาน พบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด อาทิ ใบโอนย้ายสินค้าที่ระบุว่าเป็นของ บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 4 ใบ สมุดบันทึกรายละเอียดยางรถยนต์ และหินเจียรมือถือ เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ควบคุมคนงานได้รวม 14 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ที่เหลือเป็นชาวจีนไปดำเนินคดี
จากการสอบถามคนงานแจ้งว่า เจ้าของสถานที่ดังกล่าวเป็นคนไทยและให้ชาวจีนเช่าพื้นที่ ซึ่งเจ้าของชาวจีนได้ออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนยางรถยนต์ส่วนใหญ่มีต้นทางมาจาก บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ยังมียางล้อรถยนต์ของบริษัทอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วย ได้แก่ บริษัท จงเซ่อ รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เจนเนอรัล รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท หวาอี้ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทั้ง 3 บริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง

ขณะที่ นางสาว LAN, JININA ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบัญชีของ บริษัท หลิงหลง จำกัด ให้การว่า บริษัท หลิงหลง จำกัด ได้นำยางมาเก็บไว้ในที่เกิดเหตุ โดยมิได้ทำสัญญาเช่า แต่รู้จักกับนายโจฮุย ซึ่งเป็นชาวจีนด้วยกัน และนายโจฮุยรู้จักกับเจ้าของที่ดิน จึงนำยางรถยนต์ทั้งหมดเป็นยางเสื่อมคุณภาพและเป็นยางตกเกรดมาเก็บไว้เพื่อรอทำลาย
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่าหากเป็นยางเสื่อมคุณภาพและเป็นยางตกเกรดที่รอทำลาย ทำไมจึงไม่ส่งไปยังบริษัทรับกำจัดที่ปลายทางเลย แต่ทำไมถึงนำมาพักไว้ที่โกดังแห่งนี้ก่อน
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) จึงดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเรื่องการกำจัดยางเสื่อมคุณภาพที่ต้องส่งกำจัดให้ถูกต้อง และยึดอายัดยางรถยนต์ทั้งหมด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว