นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้การนำของนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีหนึ่งในนโยบายที่ย้ำชัดมาตั้งแต่วันแรกที่ปฏิบัติงานคือ “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” โดยวางระบบใหม่ ให้มีการทำงานเชิงรุกและเชิงรับ มีหลังบ้านที่เข้มข้น “ทีมสุดซอย” ที่ตรวจการที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

และหน้าบ้านที่เปิดรับข้อมูลปัญหาจากประชาชน อย่าง “แจ้งอุต” ที่ใช้เทคโนโลยีแชทบอทที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ ผสานกับเอไอ (AI) เปิดให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่โดยหน้าบ้านใช้แพลตฟอร์ม “แจ้งอุต” ที่ใช้ระบบเดียวกับทราฟฟี่ฟองดูว์ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ ที่ผู้ร้องสามารถแจ้งปัญหาและระบุพิกัดโรงงานต้องสงสัยได้ และสามารถตรวจสอบและติดตามผลได้อย่างโปร่งใส โดยมีเจ้าหน้าที่ตอบรับเรื่องภายใน 1 ชั่วโมง และสามารถแก้ไขปัญหาได้ในเวลาเฉลี่ยเพียง 14 วัน

และยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามมาตรฐานเพราะมีระบบให้คะแนนความพึงพอใจ ซึ่งแจ้งอุตทำให้มีจำนวนร้องเรื่องของประชาชนในระบบเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า รวม 615 เรื่องภายในช่วง 3 เดือนแรก จากปกติกระทรวงอุตสาหกรรม รับเฉลี่ยอยู่ที่ 550 เรื่องต่อปี และดำเนินการปิดเรื่องสำเร็จแล้ว 300 เรื่อง

ซึ่งหลังจากรับเรื่องร้องเรียนบน “แจ้งอุต” แล้วจะส่งเรื่องให้หลังบ้านทีมสุดซอย นำโดยนางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมงานจากกระทรวงอุตสาหกรรม ทุกกรม กองส่วนกลาง พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของประชาชนอย่างทันทีด้วยความตรงไปตรงมา ตามเก็บหลักฐานอย่างจริงจัง ทำอย่างโปร่งใสต่อหน้าสื่อมวลชน ไม่มีการสอดแทรกระบบอุปถัมภ์ใดๆ ไม่ว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร ก็ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด และยังมีการผนึกกำลังทุกกรมกองในกระทรวงอุตสาหกรรม

พร้อมจับมือ DSI สอบสวนกลาง คณะกรรมการแข่งขันการค้าฯ ขุดรากถอดโคนอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการการปิดโรงงานรีไซเคิลเถื่อน ในจังหวัดชลบุรี ได้ทราบเบาะแสจากประชาชนที่ชี้เป้าผ่าน “แจ้งอุต” ปิดวงจรการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์แอบถมลงดิน เบาะแสต่อมาสุดซอยตามรอยกลุ่มโรงงานรีไซเคิลย่านมหาชัยที่แอบฝังกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ และมีประชาชนในพื้นทีส่งข้อมูลแจ้งความผิดสังเกต พร้อมชี้พิกัดโรงงาน และล่าสุดกรณีเหล็กข้ออ้อยหักงอในขณะนำไปก่อสร้างจากจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดตาก ก็ได้รับเบาะแสจากช่องทางการร้องเรียนของประชาชน ซึ่งนับเป็นการแสดงถึงพลังของประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการปราบขบวนการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ สร้างอุตสาหกรรมสะอาดให้ประเทศไทยอย่างยั่งยืน

“ทั้งหมดนี้เป็นการวางระบบเพื่อให้การทำงานหน้าบ้านและหลังบ้านสอดรับกัน ของรัฐมนตรีฯเอกนัฏ เป็นการใช้ยาแรงเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสังคมไทย มุ่งเป้าแก้ปัญหาทุนเทา ทุกรูปแบบ กำจัดอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ทลายระบบอุปถัมภ์ ใช้เทคโนโลยีวัดประสิทธิภาพข้าราชการไทย ตัดขาดเส้นสายในองค์กร ภารกิจของรัฐมนตรีเอกนัฏ และทีมสุดซอยจะประสบความสำเร็จไม่ได้ หากไม่ได้ทุกท่านเข้ามามีส่วนร่วมทำลายอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญครั้งนี้ ซึ่งทุกท่านสามารถเป็นส่วนนึ่งของการปฎิรูปอุตสาหกรรมได้ง่ายๆเพียงแค่เข้าไลน์ Traffy Fondue เข้าเมนูแจ้งอุต ใส่เรื่องร้องเรียน โรงงาน-เผาอ้อย-เหมือง-มาตรฐานสินค้า ถ่ายรูปปัญหาที่พบแล้วปักตำแหน่ง รอรับอัพเดทการแก้ไขปัญหาได้อย่างสะดวกฉับไว กระทรวงอุตสาหกรรมรับฟังทุกเสียงและพร้อมลุยเพื่อหยุดทุกปัญหาอุตสาหกรรม” นายพงศ์พลกล่าว.