“ทรัมป์รายวัน” ทำ “รองฯพิชัย” จิตตก! เช็คข่าวหลังตื่นนอนทุกเช้า เผย! ส่อเลิกแผนแจกเงินหมื่น 2 กลุ่มใหญ่ “เฟส 3-4” วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท หรือไม่? ลุ้นอีกที 19 พ.ค.นี้ หลัง “ปลัดคลัง” แจงนัดหมายประชุมร่วมนายกฯในบอร์ดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่

การประกาศทบทวนแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Walle ที่ รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง เคยจ่อจะแจกเฟส 3 ให้กับเยาวชนคนหนุ่มสาววัย 16 -20 ปี และต่อด้วยเฟส 4 ให้กับคนที่มีอายุกว่า 20 – แต่ไม่ถึง 60 ปี ซึ่งถือเป็น 2 กลุ่มใหญ่รวมกันราว 16 ล้านคน นั้น

ดูเหมือนจะมีสัญญาณที่ชัดเจนแล้วว่า มีแนวโน้มสูงที่รัฐบาลจะ “ติดเบรก” โครงการที่เคยบอกว่าจะสร้าง “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ”

จะด้วยข้ออ้างใดๆ ก็ตาม ทว่าสิ่งนี้…คงต้องเกิดขึ้น และเป็นรัฐบาลเองที่จะออกมาชี้แจง ภายหลัง การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เบื้องต้นที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เคยให้สัมภาษณ์ในเชิงคาดการณ์ว่า…น่าจะเป็นสัปดาห์หน้า

“ครึ่งวันก่อนจะมาประชุมร่วมกับสถาบันการเงินของรัฐ ผมได้ทำการบ้านเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ควบคู่กับการคิดจะรับมือกับนโยบายขึ้นภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยทุกเช้าเมื่อตื่นขึ้นมา ก็จะต้องรีบมาเช็คข่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ก่อนเลยว่า เช้าวันนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ให้ต้องเตรียมการวางแผนรับมือหรือไม่” นายพิชัย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารสถาบันการเงินของรัฐ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ค.2568 ที่ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่

ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมายืนยันแล้วว่า ช่วงสายของวันที่ 19 พ.ค.นี้ จะมีการนัดหมายประชุม คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ตัวเขาทำหน้าที่เป็น “เลขานุการ” ที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจาก ขณะนี้ กระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ ได้ส่งรายการทบทวนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับนโยบายการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ มาให้ตนได้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ แล้ว

ส่วนการทบทวนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จะพิจารณาภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ที่อนุมัติไว้สำหรับเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัล เฟส 3 และเฟส 4 ทั้งนี้ ในการทบทวนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ เพื่อรองรับสถานการณ์ปัจจุบัน ครอบคลุมทั้งด้านการลงทุน ปรับโครงสร้าง และดูแลกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ

“ตอนนี้ ยังระบุไม่ได้ว่า จะเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อไปหรือไม่ เป็นอำนาจของบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ โดยจะพิจารณาว่าควรเดินหน้าโครงการใดบ้าง ภายใต้วงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่ 1.57 แสนล้านบาทหรือไม่ อย่างไร?” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว.