รัฐจี้ ‘ผู้บริหารโรงเรียน’ เร่งสร้างสังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้า รับเปิดเรียนภาคใหม่

รัฐบาลห่วงปัญหาบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าระบาดในโรงเรียนช่วงเปิดเทอมนี้ กำชับ “บุคลากรครู” เร่งสร้างสังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้า ช่วยตรวจตราปัญหาในกลุ่มนักเรียนใกล้ชิด ชี้! หากพบครูหรือเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องจะโดนวินัยและอาญาตามมาทันที ด้าน ที่ปรึกษานายกฯ โว! “นายกฯอิ๊ง” สุดปลื้มผลงานกำจัดบุหรี่ไฟฟ้า หลังพบยอดขายลดฮวบ พร้อมเปิดช่องแจ้งออนไลน์ หากยังพบการซื้อขาย รวมถึงปมข้าราชการทุจริตรับส่วย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการโดยกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีผู้นำเข้า ผู้ขาย และหน่วยงานราชการที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยให้เร่งขยายผลถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อขุดรากถอนขบวนการลักลอบค้าบุหรี่ไฟฟ้าให้หมดไป มุ่งผลคือการป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชน ส่งผลให้การแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันพบว่า ร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งกลุ่มมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

“หากพี่น้องประชาชนยับพบเห็นการค้าขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถส่งจดหมายแจ้งเบาะแส ร้องเรียนเรื่องดังกล่าว มาถึงตนได้โดยตรง โดยจ่าหน้าซองถึง “รายการเสียงจากใจไทยคู่ฟ้า เลขที่1 ทําเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร1 0300 หรืออีเมล์ที่ jirayu9000@gmail.com โดยผู้แจ้งเบาะแสไม่ต้องกังวลใจ เพราะไม่ต้องใส่ข้อมูลส่วนตัว เพียงแค่แจ้งพิกัดสถานที่ ว่าอยู่ตรงไหน เรื่องอะไร ของประเทศ ก็จะส่งต่อให้ทีมงานเฉพาะกิจลงพื้นที่ไปจัดการปัญหาทันที หรือ หากใช้โทรศัพท์มือถือสามารถดาวน์โหลดแอป “ทางรัฐ” แล้วแจ้งเบาะแสบุหรี่ไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุและย้ำว่า…
การที่ต้องดำเนินการปราบปรามปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องนั้น เพราะบุหรี่ไฟฟ้าบางตัว ถูกพัฒนาให้ใส่สารเสพติดลงไปได้ และพบว่าหลายคนใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์เสพยาเสพติด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเสพของเด็กและเยาวชน อีกทั้งเรื่องดังกล่าว อยู่ในความสนใจของประชาชน วัดได้จากผลการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนต่อนโยบายรัฐบาล ประจำเดือนมี.ค. 2568 ของ Line Today ที่ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 1 – 24 มี.ค. 2568 พบว่า ประชาชนกว่า 26.69% โหวตให้การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า เป็นอันดับที่ 1 โดยในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลสามารถดำเนินการกวาดล้าง จนสามารถจับกุมได้ มากกว่าสองพันคดี ยึดของกลางได้จำนวน 1,608,445 ชิ้น มูลค่ารวม 295,686,734 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดการจับกุมและการยึดของกลางที่สูงมากที่สุดตั้งแต่มีมา
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า อีกไม่กี่วัน ใกล้จะเปิดเทอม ปี 2568 แล้ว รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งขับเคลื่อนการสร้างสังคมปลอดบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในสถานศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่ในสถานศึกษา ให้ช่วยกันตรวจตราดูแลปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักเรียน ทั้งนี้ หากมีการตรวจพบ หรือมีการร้องเรียน หรือมีข้อสงสัยว่าข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ผู้บังคับบัญชาจะต้องดำเนินการทางวินัยทันที
“ยืนยันว่า ปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า เป็นเรื่องที่รัฐบาลยอมไม่ได้ และจะลงไปดำเนินการจัดการปัญหาด้วยตนเอง พร้อมกับทีมเฉพาะกิจ เพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับ มารายงานความคืบหน้าให้ท่านนายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ รวมทั้งสังคมไทยก็จะได้ทราบไปพร้อมกัน” นายจิรายุ กล่าวและว่า…
ไม่ใช่แต่เฉพาะปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ปัญหาทุกอย่างของประเทศไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รับส่วย เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ยาเสพติดหรือเรื่องอื่นใดที่อยู่เหนือกฎหมายสามารถแจ้งได้ทันที โดยพี่น้องประชาชนจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันขัดเกลาสังคมไทยให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในช่วงที่ใกล้จะเปิดเทอมการศึกษาภาคเรียนใหม่นี้ รัฐบาลได้กำชับให้ทุกพื้นที่ในโรงเรียนจะต้องปลอดจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะ เร่งการสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษภัยแก่นักเรียนและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ รวมถึงให้แสดงเครื่องหมายเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ดูแลไม่ให้นักเรียน นักศึกษา เจ้าหน้าที่ทุกระดับ เข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
ทั้งนี้ หากพบหรือมีการร้องเรียนว่า ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่คนใด เข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ว่าจะสูบ จำหน่าย มีไว้ในครอบครอง หรือสนับสนุน ให้ดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่ทันที หากมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยและกฎหมายอย่างถึงที่สุด.