‘อีสท์ วอเตอร์’ โชว์แกร่ง! Q1/68 EBITDA เพิ่ม 39.45% ปี 68 จ่อออกหุ้นกู้ 2 พัน ลบ.

“อีสท์ วอเตอร์” โชว์ผลประกอบการ Q1/68 EBITDA ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.45 เตรียมออกหุ้นกู้ปีนี้อีก 2,000 ล้านบาท แจงตลาดฯเปลี่ยนกรรมการทดแทน พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจน้ำรองรับอีอีซีอย่างยั่งยืน

นายบดินทร์ อุดล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรือ อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า หลังจากโครงการวางท่อทดแทนของบริษัทแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดตั้งแต่ไตรมาส 4/2567 ทำให้ Water Grid ความยาว 553 กิโลเมตรของอีสท์ วอเตอร์กลับมาเป็นโครงข่ายท่อส่งน้ำที่สมบูรณ์ที่สุด สร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับอีอีซี และให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้ EBITDA ในไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.45 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาดังที่ได้รายงานงบการเงินไตรมาส 1/68 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทได้ก้าวผ่านจุดต่ำสุด และคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

นอกจากนี้ การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2568 ผู้แทนจากการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ย้ำจุดยืนในการสนับสนุน และเล็งเห็นความสำคัญของ อีสท์ วอเตอร์ ในฐานะผู้พัฒนาระบบบริหารการส่งน้ำและโครงข่ายท่อส่งน้ำสายหลักเพื่อพัฒนาพื้นที่อีอีซี และส่งกรรมการผู้แทนเพื่อถ่ายทอดและส่งต่อนโยบายรัฐที่อยู่ในขอบเขตหน้าที่ให้รับไปดำเนินการให้สำเร็จอย่างรวดเร็ว กปภ. พร้อมสนับสนุนในการสร้างผลประกอบการที่ดีและมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจด้านน้ำสู่ความยั่งยืน ให้สามารถจ่ายเงินปันผลกลับมายังผู้ถือหุ้นและ กปภ. ได้อย่างต่อเนื่อง

ในกรณีที่อาจมี ข้อสงสัยเรื่องสถานะทางการเงิน และการพิพาทกับภาครัฐ บริษัทขอชี้แจงว่า บริษัทได้เตรียมเงินสำหรับไถ่ถอนหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2558 ชุดที่ 2 ที่จะครบกำหนดในวันที่ 16 มิถุนายน 2568 จำนวน 1,200 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ส่วนแผนการออกหุ้นกู้เป็นแนวทางปรกติในการบริหารการเงินของธุรกิจโดยทั่วไป ซึ่งในปี 2568 บริษัทจัดเตรียมความพร้อมสำหรับการออกหุ้นกู้ใหม่จำนวน 2,000 ล้านบาท โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โอกาสและความจำเป็นในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ของหุ้นกู้เดิม

ส่วน เรื่องคดีความ ประกอบด้วยคดีแพ่งที่กรมธนารักษ์ฟ้องอีสท์ วอเตอร์ เรื่องการขับไล่และให้รื้อถอนทรัพย์สินจากพื้นที่พิพาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินคดีในชั้นศาล ซึ่งบริษัทได้ยื่นคำให้การต่อศาลเรียบร้อยแล้ว และคดีปกครองที่อีสท์ วอเตอร์ ฟ้องกรมธนารักษ์ตั้งแต่ปี 2566 ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า หนังสือที่ธนารักษ์แจ้งอีสท์ วอเตอร์ นั้น “มิใช่คำสั่งทางปกครอง” จึงพิพากษา “ยกฟ้องบริษัท” ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทสร้างท่อทดแทนทรัพย์สินที่ได้ส่งคืนกรมธนารักษ์ครบถ้วน เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ บริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 เรื่องการแต่งตั้งกรรมการทดแทนกรรมการที่ลาออก ได้แก่ นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ กรรมการจากผู้ถือหุ้น กนอ. และนายสำเริง แสงภู่วงศ์ กรรมการอิสระ ส่งผลให้บริษัทได้คณะกรรมการบริหารที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยขับเคลื่อนบริษัทครบทุกตำแหน่ง

อีสท์ วอเตอร์ ยืนยันจุดแข็งการเป็นหนึ่งเดียวในภาคตะวันออกที่มี Water grid ความยาว 553 กิโลเมตร เชื่อมโยงแหล่งน้ำสำคัญในภาคตะวันออก บูรณาการทำงานร่วมกับภาครัฐและสร้างความมั่นคงในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระบบสูบส่งน้ำขนาดใหญ่มากกว่า 30 ปี สร้างความมั่นใจและตอบสนองให้แก่ลูกค้าที่ต้องการเสถียรภาพและคุณภาพของน้ำที่ส่งมอบ บริษัทจึงพร้อมเปิดธุรกิจต่อยอดด้านน้ำ และธุรกิจใหม่อื่น ๆ ที่เน้นผลตอบแทนสูงสุดบนพื้นฐานแห่งความยั่งยืน พร้อมเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งร่วมกัน และพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทั่วประเทศ นายบดินทร์ กล่าวทิ้งท้าย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password