อย่าให้คนไทย มองว่าเป็น “ผู้ร้ายในอดีต…กลับชาติมาเกิด”

ภาพ “คนไทยขายชาติ” คอยเปิดประตูให้ กองทัพข้าศึก “พม่า-รามัญ” บุกเข้าโจมตี…เผาบ้านเมืองของกรุงศรีอยุธยา เมื่อกว่า 250 ปีก่อน (เหตุการณ์เสียกรุงฯครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2310) ได้ถูกนำมาพูดถึงและเปรียบเทียบอย่างอึงมี่…ในโลกโซเชียล ต่อสถานการณ์ข่าวยุคปัจจุบัน
เป็นภาพที่คอย ตามหลอกหลอนบรรพบุรุษไทยนับอดีต จนมาถึงคนไทยในทุกวันนี้…
ภาพนี้…ได้กลับมาหลอกหลอนคนไทยอีกครั้ง และอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คนไทย จะหมดความอดทนกับนักการเมืองและพรรคการเมืองบางพรรค? ที่กำลังถูกตั้งคำถามถึงพฤติการณ์ที่มี
ดูมันช่างใกล้เคียงกับ ภาพในอดีต…เมื่อ “ขุนศึกขายชาติ” เปิดประตูให้กองทัพข้าศึก “พม่า-รามัญ” บุกเข้าโจมตี…เผาบ้านเมืองฯ ยิ่งนัก!!!
ยุคสมัยล่าอาณานิคม…สยาม (ไทย) เราต้องสูญเสียดินแดนมากมายหลายรอบ เพื่อแลกกับดินแดนที่เหลือในปัจจุบัน แน่นอนว่า…เรามิอาจย้อนกลับไปเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ จึงต้องยอมรับกับภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่…
ของเก่าที่เสียไป ช่างหัวมัน…แต่ผืนดินใหม่ในปัจจุบัน จะต้องไม่เสียให้ใคร แม้แต่ตารางนิ้วเดียว!!!
วลีจากปาก…นักการเมืองรุ่นใหม่ ผู้ไม่เคยประสบพบเห็นชะตากรรมของประเทศ ต่อสถานการณ์สงครามและการสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อของบรรพบุรุษ และดินแดนที่บรรพชนได้ปกปักษ์รักษาเอาไว้ กับคำถามที่มักพร่ำบ่น ทำนอง…
ทหารมีไว้ทำไม?
คำตอบจากคนเห็นต่าง คงไม่พ้น…ก็มีไว้เพื่อปกป้องแผ่นดิน ทรัพย์สิน ชีวิตและเลือดเนื้อของคนไทยและประเทศไทย เอาไว้ให้โคตรเหง้าศักราช และบรรพบุรุษของนักการเมืองรุ่นใหม่เหล่านั้น ได้ทำมาหากิน โดยที่บางตระกูล…คอยแต่จะเอาเปรียบคนไทยและแผ่นดินไทย อย่างเป็นที่อยู่นั่นอย่างไร?
กับสถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนท่าทีของ “รัฐบาลแพทองธาร” และ เสนาบดีกลาโหม อย่าง “บิ๊กอ้วน” นายภูมิธรรม เวชชยชัย ต่อสถานการณ์พรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น…ในฝั่ง เมียนมา (กลุ่มว้าแดง) หรือฝั่ง กัมพูชา (ปราสาทตาเมือนธม และเกาะกูด)
ดูช่างแปลกๆ!!!
แปลก! เพราะ…รัฐบาล ทหาร และประชาชน ของประเทศเพื่อนบ้านเหล่านั้น หาได้เกรงใจหรือยำเกรงประเทศไทย แต่อย่างใด?
ต่างจากยุคที่หลายฝ่าย เคยพร่ำด่าว่าเป็น “รัฐทหาร” ทว่า…ในยุคของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (2557 – 2565) กลับจะมีเหตุการณ์บุกรุกดินแดนไทย น้อยถึงน้อยมาก
เทียบไม่ได้กับยุคของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มี นายภูมิธรรม นั่งควบเก้าอี้ “รองนายกฯและรมว.กลาโหม”
ประเทศไทย…ในทุกวันนี้ มักประสบปัญหา “ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็ปะทุให้ต้องเหนื่อยใจ” อยู่หลายครั้ง
ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา…โหมเคลมศิลปวัฒนธรรมไทย ชุดและเครื่องแต่งกายไทย อาหารไทย กีฬาไทย สารพัด รวมถึง…การประกาศเคลมดินแดนไทย มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 2 ปีหลัง
แต่ทว่า…รัฐบาลไทย ยุค นายกฯแพทองธาร แทบไม่มีปฏิกริยาตอบโต้แต่อย่างใด?
มันเกิดอะไรขึ้น!!!
ก็สมควรแล้ว หากคนไทยบางส่วน จะมองว่า…เพราะ แกนนำของรัฐบาล 2 ชาติ “ไทย – กัมพูชา” เป็นเครือญาติ ที่จะต้องผูกสัมพันธ์และสานประโยชน์ร่วมกัน นับจากนี้ไป
กับคำสั่งของ นายภูมิธรรม ที่สั่งให้ทหารไทย ในพื้นที่รับผิดชอบของ กองทัพภาพที่ 2 ต้องถอนกำลังไปจากผืนแผ่นดินไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ได้ถูกผูกโยงกับเหตุการณ์ในอดีต ที่นำไปสู่การสูญเสียดินแดนของไทยให้กับกัมพูชา
โดยเฉพาะ…ปราสาทเขาพระวิหาร และที่ดินรายรอบ 4.6 ตร.กม.
ลากยาวไปจนถึงการเสียกรุงฯครั้งที่ 2
ตรงนี้…มันช่วยไม่ได้ ที่คนในโลกโซเชียลส่วนใหญ่…จะมองและคิดเห็นเช่นนั้น
“ทีมข่าวยุทธศาสตร์” ไม่เชื่อว่า…นายกฯแพทองธาร หรือ นายภูมิธรรม จะมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็น “คนเปิดประตูเมืองให้ข้าศึก”
แต่ก็อยากให้ทั้ง 2 คน แสดงเจตนาและจุดยืนที่ชัดเจนต่อสถานการณ์นี้ ให้มากกว่าที่เป็นอยู่!!!
หลายฝ่ายมองว่า…การที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และนายทหารชั้นผู้ใหญ่แห่งกองทัพไทย ปฏิเสธคำสั่งของ นายภูมิธรรม ไม่ถอนทหารออกจากพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม
นั่นคือ…การรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้
แล้วยังเชื่ออีกว่า…หากทหารไทย ถอนกำลังออกไป นั่นก็เท่ากับ “ยอมรับ” ในความเป็นเจ้าของผืนดินบริเวณดังกล่าวของประเทศเพื่อนบ้าน
ปราสาทตาเมือนธม อาจเป็น “เป้าหลอก!” ของรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน แต่เรื่อง “เกาะกูด” ที่เป็นของไทยมาโดยตลอด เช่นเดียวกับ ปราสาทตาเมือนธม นั่นคือ…ของจริง และจริงเสียยิ่งกว่า
เพราะ รัฐบาลกัมพูชา อย่าง…มีส่วนร่วมในความ เป็นเจ้าของเกาะกูด อย่างที่สุด! เนื่องจากใต้ทะเลแถบนั้น เต็มและคราคร่ำไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งน้ำมัน ก๊าซ และทรัพย์สินจากธรรมชาติอื่นๆ อีกมากมาย
ทางออกของเรื่องนี้ น่าที่…นายกฯแพทองธาร นายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ จะต้องประกาศจุดยืนต่อกรณีนี้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด
อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมแล้ว จะต้องประกาศ “รักษาเอาไว้” อย่างเต็มกำลังความสามารถ
ส่วน นายภูมิธรรรม ผลงานที่ผ่านมา…ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า…ตัวเขาไม่เหมาะสมต่อการจะนั่งเก้าอี้เสนาบดีกลาโหมอีกต่อไป…
หากฝืนและขืนดึงดัน ระวัง! ทั้ง…นายกฯแพทอง ตระกูลชิน และนายภูมิธรรม อาจถูกผูกโยงว่าเป็น “ผู้ร้ายในอดีต…กลับชาติมาเกิด” ก็เป็นได้!!!.