“ผู้บริหาร – จนท. สำนักงบประมาณ” ยังหวั่นใจ ไม่กล้าเข้าใช้พื้นที่และทำงานในสำนักงานใหญ่แห่งใหม่สูง 30 ชั้น หลังพบบริษัทรับเหมาสัญชาติจีน “กิจการร่วมค้า เอสที-แมกซ์เอ็นส์-ทีดับบิว” เปิดตูดหนี ทิ้งงาน เหมือนที่เคยทำกับโครงการอื่นๆ ของรัฐ เผย! วันนี้ ใช้งานในพื้นที่จริงได้แค่ 60%

“ตึกเต้าหู้” หรือ โครงการก่อสร้างอาคารสูงที่มีคุณภาพต่ำ กำลังลุกลามบานปลาย ขยายจาก อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เพิ่งถูกถล่ม! ไปกับแรงสั่นสะเทือนของเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อ 28 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ไปสู่กลุ่มอาคารอื่นๆ ที่ถูกสร้างด้วยฝีมือของบริษัทผู้รับเหมาสัญชาติจีน

ล่าสุด ความรู้สึกไม่เชื่อมั่นต่อสำนึกรับผิดชอบของบริษัทรับเหมาฯของคนสัญชาตินี้ ได้ขยายผลไปสู่ความรู้สึกของการใช้พื้นที่ในอาคารสำนักงบประมาณ ย่านพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับการรังสรรค์จากบริษัทผู้รับเหมาชาวจีนเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ (23 เม.ย.2568) เจ้าหน้าที่และผู้บริหารของสำนักงบประมาณ ยังคงรู้สึกกังวลและไม่มั่นใจต่อโครงสร้างของอาคาร เนื่องจากพบว่ามีความเสียหายในหลายส่วน ขณะที่การตกแต่งภายในหลายๆ ชั้น ก็ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากตึกใหม่บนความสูง 30 ชั้น ที่ดูจากภายนอกช่างสวยงาม อลังการ แต่ความเป็นจริง คือ ตึกของสำนักงบประมาณแห่งนี้ ถูกบริษัทผู้รับเหมาจีน “ทิ้งงาน” และปล่อยอาคารร้างไว้ โดยไม่มีใครรับผิดชอบ มานานแล้ว

สรุปสภาพปัญหาของอาคารแห่งนี้ พบว่า 1.ชั้นล่างถึงชั้นบนหลายสิบชั้นยังเข้าไม่ได้ 2.บางชั้นกลายเป็นห้องว่าง ห้องเก็บของ 3.การใช้งานจริง ทำได้แค่ 60% ของพื้นที่อาคาร และ 4.อาคารแห่งนี้ สร้างมาตั้งแต่ปี 2560 จนวันนี้ยัง “สร้างไม่เสร็จ” ปัจจุบัน ไม่มีใครออกมารับผิดชอบ

สำหรับบริษัทผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างอาคารฯ พบว่าเป็นทุนจีน นั่นคือ กิจการร่วมค้า เอสที-แมกซ์เอ็นส์-ทีดับบิว และบริษัทนี้ มีประวัติการละทิ้งงานหลายแห่ง เช่น โครงการก่อสร้างอาคารอำนวยการ ผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉิน รพ.ตรัง  เป็นอาคาร คสล. 7 ชั้น ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 แต่ปรากฏว่า ผู้รับเหมาก่อสร้างขาดความรับผิดชอบ ทิ้งงาน มีปัญหายืดเยื้อ ทำให้โครงการหยุดชะงักลงเป็นเวลานานหลายปี รวมถึงอุปกรณ์ประกอบอาคารที่งานเสร็จแล้วเกิดทรุดโทรมเสียหาย 

โดยเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2562 ได้มีการทำสัญญาครั้งที่ 3 กับ บริษัท กิจการร่วมค้า เอสที-แมกซ์เอนส์-ทีดับ บิว และ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2563 บริษัทฯได้ดำเนินการก่อสร้างและส่งงานได้ 7 งวด และหลังจากนั้น ไม่สามารถก่อสร้างได้ตามแผน จึงถูกยกเลิกสัญญาในวันที่ 31 ส.ค.2566

นอกจากนี้ ยังมี โครงการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 พร้อมที่พัก มูลค่ากว่า 700 ล้าน แทน “บ้านป่าแหว่ง” จ.เชียงใหม่ โดยได้ดำเนินการก่อสร้างมานานกว่า 2 ปี เหลือเวลาก่อสร้างก่อนสิ้นสัญญาอีกไม่ถึง 7 เดือน วันนี้ยังมีแต่ฐานรากกับโครงเหล็ก

รวมถึง โครงการก่อสร้างอาคารศาลแพ่งและศาลอาญาพระโขนง วงเงินกว่า 304 ล้านบาท ซึ่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการศาลยุติธรรม ขอให้ตรวจสอบกรณีโครงการก่อสร้างดังกล่าว เนื่องจากพบว่า คณะกรรมการตรวจรับงานจ้างแล้ว แต่กลับไม่สามารถใช้งานศาลได้เต็มที่ เช่น ห้องพิจารณาคดี 38 ห้อง สร้างเสร็จแค่ 1 ห้อง ลิฟต์ 7 ชุด แต่ใช้ได้แค่เพียง 1 ชุด รวมถึงยังไม่มีการทาสี ตกแต่งอาคาร ทั้งภายในและนอกอาคาร เป็นต้น .