บสย. นัดถก ‘สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย’ ร่วมปลุกยอดค้ำประกัน ม.กระบะพี่ มีคลังค้ำ

“สิทธิกร” นำทีม บสย. หารือร่วมสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ปลุกยอดค้ำประกันผ่านมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เผย! ค้ำประกันนานสุด 7 ปี วงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท/ราย คาดช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อซื้อกว่า 6,250 ราย สร้างสินเชื่อในระบบกว่า 5,000 ล้านบาท ก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 21,000 ล้านบาท ช่วยผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กว่า 2,500 บริษัท เริ่มแล้ว จนถึง 30 ธ.ค.2568

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) นายกิตติพงษ์ บุรณศิริ รองผู้จัดการทั่วไป สายงานกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ และ ผู้บริหารจากกลุ่มบริษัทลีสซิ่ง ที่เป็นสมาชิกสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย นำโดยนายศรัณย์ ทองธรรมชาติ ประธานกรรมการสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย ร่วมด้วย นายอนุฤทธิ์ วงศ์อุดม ประธานสายงานธุรกิจสินเชื่อและเช่าซื้อ นายบุญหนา จงถิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย และ น.ส.วัลยา ตระการนุวัฒน์กุล ผู้อำนวยการสายงาน ฝ่าย Credit พร้อม ผู้แทนจากกลุ่มบริษัทลีสซิ่ง ร่วมประชุมหารือแนวทางพัฒนาโครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ “บสย. SMEs PICK-UP” ภายใต้มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เพื่อปลดล็อกให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่จำเป็นต้องใช้รถกระบะเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ

เช่น กลุ่มเกษตรกร ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งสินค้า ค้าขาย และฟู้ดทรัค เป็นต้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. เพื่อให้โครงการดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อผู้ประกอบการ SMEs พร้อมพลิกฟื้นอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เติบโต เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2568 ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ บสย. อาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 ชั้น 18

ทั้งนี้ มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” เป็นมาตรการภายใต้นโยบายของภาครัฐ ที่มุ่งช่วย SMEs ลดภาระทางการเงิน ด้วยสิทธิประโยชน์ ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก โดย รัฐบาล กระทรวงการคลังเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมค้ำประกันให้ ส่วนปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมค้ำประกันต่ำเพียง 1.5% ต่อปี ของภาระหนี้ค้ำประกันในแต่ละปี เช่นภาระหนี้สินเชื่อปีที่ 4 คงเหลือ 300,000 บาท SMEs จะจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันเพียง 4,500 บาทเท่านั้น พร้อมค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี หรือ 84 งวด วงเงินค้ำประกันสูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อราย ภายใต้วงเงินค้ำประกันในระยะแรกจำนวน 5,000 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายคือ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย ที่ขอสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับซื้อรถกระบะใหม่เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์
โดย บสย. ได้เปิดรับคำขอค้ำประกันตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดรับคำขอค้ำประกันภายในวันที่ 30 ธ.ค.2568 โดยคาดว่าจะช่วย ผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการซื้อรถกระบะใหม่ เข้าถึงสินเชื่อได้กว่า 6,250 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบกว่า 5,000 ล้านบาท และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 21,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังช่วยพลิกฟื้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทยได้มากกว่า 2,500 บริษัท.

