กรมศุลฯบูรณาการร่วมหน่วยงานรัฐ ยึดบุหรี่ไฟฟ้ากว่าแสนชิ้น มูลค่า 21.86 ล.

กรมศุลกากร ผนึกกำลังร่วม “ดีเอสไอ – ตร.– ภ.2 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” เปิดตรวจ 4 ตู้คอนเทนเนอร์ตกค้าง ณ ด่านศุลกากรแหลมฉบัง ผงะ! พบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง รวม 660 กล่อง หรือ 121,490 ชิ้น มูลค่ารวม กว่า 21.86 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2568 นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งการให้ปราบปรามการลักลอบนำเข้า – ส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง รวมถึงการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 30 วัน นับแต่ ก.พ. 2568 โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนและร้านค้ารอบสถานศึกษา เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของประชาชน นั้น ด้าน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ขานรับนโยบายและสั่งการให้กรมศุลกากรเร่งดำเนินการตามนโยบายข้างต้น ซึ่งกรมศุลกากรได้เพิ่มความเข้มงวดเพื่อตอบสนองนโยบายอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกบุหรี่ไฟฟ้าทุกช่องทาง รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง

จากการวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยง ในการลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักรหรือผ่านแดนไปยังประเทศปลายทางอื่น ๆ กรมศุลกากรมีการรวบรวมข้อมูลการข่าวและจับตาพฤติการณ์ของผู้ที่มีความเสี่ยงในการลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด จนเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2568 กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และตำรวจภูธรภาค 2 (ภ.2) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการตรวจสอบ ตู้สินค้าตกค้าง จำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี พบมีการซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าปะปนมากับสินค้าอื่น ๆ โดยตู้ที่ 1 พบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 320 กล่อง (รวม 48,000 ชิ้น) มูลค่า 8,640,000 บาท ตู้ที่ 2 พบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 178 กล่อง (รวม 36,170 ชิ้น) มูลค่า 6,510,600 บาท ตู้ที่ 3 พบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 59 กล่อง (รวม 13,930 ชิ้น) มูลค่า 2,507,400 บาท และตู้ที่ 4 พบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 103 กล่อง (รวม 23,390 ชิ้น) มูลค่า 4,210,200 บาท รวมทั้งสิ้น จำนวน 660 กล่อง (รวม 121,490 ชิ้น) มูลค่ารวม 21,868,200 บาท

อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559 ประกอบประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 และประกาศกรมศุลกากรที่ 185/2564 เรื่อง พิธีการศุลกากรว่าด้วยการผ่านแดนทางอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ข้อ 6
สำหรับ สถิติการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 2567 – 17 มี.ค. 2568) จับกุมได้ 302 คดี ปริมาณ 942,293 ชิ้น มูลค่า 112.13 ล้านบาท.


