รัฐบาลส่ง ‘รองนายกฯ-รมว.คลัง’ บุกวงถก ‘สมาคมแบงก์ไทย’ 18 มี.ค.นี้

รัฐบาลส่ง “พิชัย ชุณหวชิร” บุกวงถกประชุมสมาคมแบงก์ไทย 18 มี.ค.นี้ อ้างหารือภาพรวมเศรษฐกิจ ผลพวงนโยบาย “ทรัมป์ 2.0” หวังบิ๊กธนาคารพาณิชย์เดินตามแบงก์ออมสิน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขเบาๆ ให้คนฐานรากนับล้านคน กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 มีนาคม 2568 นี้ ตนจะเข้าร่วมประชุมกับ คณะกรรมการสมาคมธนาคารไทย ที่มี นายผยง ศรีวณิช” ประธานฯ เพื่อหารือถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจในมิติต่างๆ รวมถึงแนวทางการดำเนินโครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ของธนาคารออมสิน ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 มีนาคมนี้ โดยคาดหวังว่าธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการปล่อยสินเชื่อให้กับคนฐานราก ที่เคยยื่นขอกู้แต่ติดปัญหาความเสี่ยงเครดิต ทำให้ไม่เคยขอสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้ หรือเป็นผู้ที่ไม่เคยตรวจประวัติเครดิต โดยคาดว่าปัจจุบันน่าจะมีอยู่หลายล้านคน เพื่อที่คนกลุ่มนี้จะได้เข้าถึงสินเชื่อในวงเงินไม่เกิน 10,000 – 20,000 บาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงจนเกินไปนัก

ทั้งนี้ แม้ลูกค้าหลักของธนาคารพาณิชย์จะเป็นกลุ่มคนระดับบน แต่หากคนระดับกลางและล่างมีปัญหาด้านการเงิน ย่อมส่งผลกระทบไปวงกว้างไปถึงกลุ่มลูกค้าหลักของธนาคาร และการดำเนินงานของธนาคารเอง จึงอยากให้ธนาคารพาณิชย์ได้พิจารณาช่วยเหลือให้คนกลุ่มนี้ได้เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น ส่วนที่เป็นห่วงว่า รัฐบาลจะเข้าไปก้าวก่ายการประชุมของคณะกรรมการสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นภาคธุรกิจการธนาคารนั้น ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ แต่เป็นการพูดคุยหารือกับฝ่ายนโยบายมากกว่า โดยหากเป็นช่วงที่กรรมการสมาคมธนาคารไทยจะหารือในประเด็นสำคัญ ตนก็พร้อมจะออกจากวงประชุมในทันที

“สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ โดยหากดูที่ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งยังไม่รวมหนี้นอกระบบ แต่สัดส่วนที่เคยมีราวร้อยละ 90 ของจีดีพีก็ไม่ขยับเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญหาหนี้เสีย (NPL) ก็เริ่มทรงตัวมากขึ้น การที่หนี้สาธารณะซึ่งเป็นปัญหาของประเทศเริ่มนิ่ง สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว การปล่อยสินเชื่อในโครงการ “สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส” ของธนาคารออมสิน ก็มีเป้าหมายที่จะสร้างโอกาสให้กับรายย่อย ผู้มีอาชีพอิสระ ให้กู้เงินมาประกอบอาชีพ ตรงนี้ผมก็อยากให้ธนาคารพาณิชย์ได้พิจารณาการปล่อยสินเชื่อให้กับคนกลุ่มระดับล่างเหล่านี้บ้าง” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ย้ำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าร่วมประชุมกับ คณะกรรมการสมาคมธนาคารไทย ในครั้งนี้ จะมีประเด็นผลกระทบจาก นโยบาย “ทรัมป์ 2.0” ด้วยหรือไม่? เนื่องจาก สมาคมธนาคารไทย ก็เป็น 1 ใน 3 ของ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่เพิ่งเข้าหารือกับ นายกรัฐมนตรีและทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ (13 มีนาคม 2568) นายพิชัย กล่าวว่า ถึงตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่านโยบาย “ทรัมป์ 2.0” คืออะไร? และผลกระทบจากนโยบายเป็นอย่างไร แต่หากจะมองจากความเป็นชาติใหญ่หรือมีมูลค่าการค้าระหว่างกันมากที่สุดแล้ว ถือว่าไทยเป็นทั้งประเทศที่เล็กและมีมูลค่าการค้าไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับประเทศที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงมีการหารือกันบ้าง ส่วนจะให้น้ำหนักเรื่องไหนมากกว่านั้น คงขึ้นอยู่กับการประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password