DSI เอาด้วยคดี ผกก.โจ้! ครอบครัวฯร้องถูก ‘ผู้คุมฯ’ กลั่นแกล้ง เชื่อส่อผิด พ.ร.บ.อุ้มหายฯ

ดีเอสไอ รับเรื่องครอบครัว “ผกก.โจ้” ขอตรวจสอบการเสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ เผย! ยังติดใจสาเหตุการตายและถูกกลั่นแกล้งจากผู้คุม ชี้! อาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ซ้อม-ทรมาน-อุ้มหายฯ

เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (11 มี.ค.2568) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.ธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผกก.โจ้” พร้อม น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ หรือ “ทราย” แฟนสาว และ นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ และ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิตของ “ผกก.โจ้” ภายในแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า ตนในฐานะกำกับ กองกิจการอำนายความยุติธรรม รับผิดชอบเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อุ้มหาย โดย ญาติ ผกก.โจ้ และทนายความ มายื่นเอกสารให้ ดีเอสไอ ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่ ซึ่งวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากทางญาติ ผกก.โจ้ เรียบร้อยแล้วแต่ต้องขอตรวจสอบพยานหลักฐานเสียก่อน ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย ทั้งนี้ พ.ร.บ.อุ้มหาย มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อัยการ ฝ่ายปกครอง ดีเอสไอ หรือ ตำรวจ ซึ่งจะมอบหมายหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไปดำเนินการได้ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนหลัก

ด้าน น.ส.สิภชา แฟนสาว ผกก.โจ้ ระบุว่า วันนี้เดินทางมาดีเอสไอ เพื่อให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม นอกเหนือจากเคยยื่นเอกสารมาก่อนหน้านี้เพื่อประโยชน์ต่อรูปคดี ทวงความเป็นธรรมให้ ผกก.โจ้ โดยไม่ใช่ว่าไม่มั่นใจในการทำคดีของตำรวจ แต่ในฐานะคนในครอบครัวอยากให้หลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบ และยังมีเรื่องติดใจ ทั้ง สาเหตุการเสียชีวิตและการถูกกลั่นแกล้งในเรือนจำฯ รวมถึงไม่เคยได้รับความเป็นธรรมก่อนหน้านี้ และช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ผกก.โจ้ ถูกกลั่นแกล้งรังแกมาตลอด เพราะถ้าคนเราไม่ได้กระทำความผิดแต่ทำไมถูกขังอยู่ในนั้นถือว่าเป็นความทุกข์อยู่แล้ว

น.ส.สิภชา กล่าวอีกว่า สำหรับ เอกสารราชทัณฑ์ที่ชี้แจง 6 ประเด็นว่า ผกก.โจ้ ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายนั้นและเซ็นยินยอมยุติสอบสวน ซึ่งขอตอบเท่าที่ตอบได้เพราะเกี่ยวข้องกับสำนวนคดี แต่บอกได้เลยว่าเรื่องในเรือนจำฯ เป็นแดนสนธยา เขาสามารถพูดหรือทำอะไรก็ได้ แต่เรื่องข้างนอกจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะถูกทำร้ายร่างกายและกลั่นแกล้งจากผู้คุมท่านหนึ่ง ส่วนตัวยืนยันขอให้ย้าย ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม และ ผู้คุมคู่กรณี ผกก.โจ้ ออกจากเรือนจำฯ ไปก่อน เพราะกลัวมีปัญหาเรื่องการสืบพยาน ซึ่งอาจขัดขวางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ทาง เรือนจำกลางคลองเปรม ไม่ได้ให้ตำรวจเข้าไปสอบสวนเรื่องทำร้ายร่างกาย ผกก.โจ้ ถึง 2 รอบ อ้างว่าเป็นช่วงเปลี่ยน ผบ.เรือนจำฯ ในขณะนั้นหรือไม่ น.ส.สิภชา กล่าวว่า จริง ๆ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมได้มีการเปลี่ยนมาหลายครั้งและไม่เคยมีปัญหา แต่เพิ่งมาเกิดครั้งนี้ รวมทั้ง เคยส่งเอกสารร้องเรียนถึงเรือนจำฯ มาแล้ว 4 ครั้งไม่เคยได้รับคำตอบเลย ส่วนวันสุดท้ายที่ไปเยี่ยม ผกก.โจ้ เจ้าตัวยังยืนยันบอกว่าให้รีบไปดำเนินการเรื่องคดี เข้ามาสอบปากคำในเรือนจำ และถ้าไม่ได้ ทนายสามารถทำอะไรได้บ้างเพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขังที่สามารถแจ้งความได้ การที่มาขัดขวางต้องการปกปิดข้อเท็จจริงอะไรหรือไม่

แฟนสาว ผกก.โจ้ ระบุอีกว่า กรณีที่มีการเอาเพื่อนร่วมรุ่นตำรวจของ ผกก.โจ้ เข้าไปเยี่ยมด้วยนั้น ปกติบุคคลดังกล่าวอยู่ใน 10 รายชื่อเยี่ยมญาติอยู่แล้ว เพื่อให้กำลังใจตามรายชื่อที่ผู้ต้องขังได้มีการอนุญาต ทั้งนี้ ในระหว่างอยู่แดน 7 และ 5 ผกก.โจ้ ไม่เคยใช้ยาปรับสารเคมีในสมองเลย ทราบว่าใช้ยานอนหลับเท่านั้น นอกจากนี้ ความกดดันจะเป็นเหตุจูงใจทำให้ ผกก.โจ้ ก่อเหตุฆ่าตัวตายหรือไม่นั้น การที่ถูกลงโทษโดยไม่มีความผิด อย่างไรก็เป็นความทุกข์

ขณะที่ น.ส.ธนัญญา (น้องสาว) เผยว่า ปกติการนำผ้าขนหนูจากข้างนอกเข้าในเรือนจำไม่ได้อยู่แล้ว แต่สามารถฝากเงินให้ผู้ต้องขังเพื่อไปเบิกซื้อรายการสิ่งของเครื่องใช้ภายในเรือนจำได้ ส่วนจะซื้ออะไรในเรือนจำตนไม่ทราบ

ขณะที่ ทนายวีรศักดิ์ เปิดเผยว่า ส่วนผลการชันสูตรศพต้องรอผลจากนิติเวช รพ.จุฬาฯ 2-3 สัปดาห์ ยังไม่ขอให้น้ำหนักไปทางใด เพราะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เรายังไม่ให้ความเห็นในส่วนนี้

เมื่อถามถึงเรื่องภาพผ้าขนหนูเช็ดตัวสีน้ำตาลเข้ม พร้อมขนาดกว้าง 59 ซม. ยาว 112 ซม. ที่ทาง กรมราชทัณฑ์ ได้มีการเผยแพร่ออกมานั้น ทนายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนยังไม่ได้เข้าไปดู ส่วนเรื่องจะเชื่อหรือไม่เชื่อตนขอยังไม่ตอบ เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มีการเก็บไปแล้ว และอย่างไรก็ต้องรอทางพิสูจน์หลักฐานได้แจ้งรายละเอียดกลับมา

ส่วนเรื่องที่ ผู้กำกับโจ้ ได้เคยลงลายมือชื่อขอให้ยุติการสอบสวนเรื่องระหว่างที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำนั้น ทนายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ขอไปดูรายละเอียดเอกสารอีกครั้งก่อน ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่าได้มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์โทรศัพท์ไปหาทางญาติเพื่อให้มีการถอนแจ้งความนั้น ในส่วนนี้ยังไม่ขอตอบ เพราะตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังมีการสอบข้อเท็จจริงอยู่ จึงขอให้เป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต้องไปรวบรวมก่อน

ทนายวีรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของการที่ อดีต ผกก.โจ้ เคยมอบอำนาจให้ตนไปแจ้งความร้องทุกข์เรื่องการถูกทำร้ายร่างกาย แล้วทางกรมราชทัณฑ์ระบุว่าเป็นการทำผิดขั้นตอน และต้องขออนุญาตไปยัง ผบ.เรือนจำก่อน เนื่องด้วยจำนวนผู้ต้องขังมีมากกว่า 6,000 ราย หากผู้ต้องขังล้วนมอบอำนาจให้ทนายความไปแจ้งพนักงานสอบสวน ก็จะเป็นการทำให้เรื่องมีความวุ่นวายเกิดขึ้นภายในเรือนจำฯ อันนี้คงต้องดูในส่วนของระเบียบของกรมราชทัณฑ์ เพราะเราได้ทำหนังสือมอบอำนาจไปตามขั้นตอนปกติ แต่ทางเรือนจำก็ไม่ได้อนุมัติให้เข้าไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password