ชี้โอกาสส่งออกอาหารแมว-หมาในจีนโตต่อเนื่อง! ‘พาณิชย์’ เผย! ปี’67 ตลาดพุ่งเฉียด 4.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผย! สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทยมีโอกาสขายในจีน หลังคนจีนนิยมเลี้ยงหมา-แมวเพิ่มขึ้น สร้างดีมานด์อาหารสัตว์เพิ่มขึ้นเพิ่มตามไปด้วย แนะสามารถเจาะได้ทั้งกลุ่มพรีเมียม และราคาประหยัด ระบุ! ปี 2567 ตลาดโตถึง 41,900 ล้านเหรียญสหรัฐ แนวโน้มโตขึ้นทุกปี ย้ำ! ผู้ผลิตไทยต้องเข้มเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน ส่วนการทำตลาดควรใช้ช่องทางออนไลน์มาช่วย

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้มอบนโยบายให้ “ทูตพาณิชย์” ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบาย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุด ได้รับรายงานจาก นางสาวนันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงภาพรวมตลาดสัตว์เลี้ยงของจีน และโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย เพื่อป้อนความต้องการของผู้เลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น

ทั้งนี้ “ทูตพาณิชย์” ได้ให้ข้อมูลว่า ปี 2024 ตลาดผู้บริโภคสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) ในจีนมีมูลค่าสูงถึง 41,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.5% โดยตลาดของสุนัข เพิ่มขึ้น 4.6% และตลาดแมว เพิ่มขึ้น 10.7% และอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นกลุ่มตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง คิดเป็นสัดส่วน 52.8% ของการบริโภคทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในปี 2024 ซึ่ง สหรัฐฯ ยังคงเป็นซัปพลายเออร์อาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ที่สุดในจีน ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 69% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวจีนยังคงนิยมอาหารสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียมจากสหรัฐฯ 

สำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า อาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงอาหารแห้ง อาหารกึ่งชื้น ขนม และอาหารเสริม มีสัดส่วนเฉลี่ย 56.1% ของโครงสร้างตลาด และเฉพาะปี 2024 ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 22,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.2% แต่ถ้าดูตั้งแต่ปี 2013-2024 ตลาดนี้มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี ที่ 22.4%

นอกจากนี้ ยังพบว่า ในปี 2023 เจ้าของสัตว์เลี้ยงในจีนมีจำนวนถึง 106 ล้านคน ส่วนใหญ่มาจากเมือง First Tier City และ Third Tier City ลงไป สัดส่วนเจ้าของสัตว์เลี้ยงในเมือง First Tier City อยู่ที่ 29% ขณะที่ในเมือง Third Tier City ลงไปอยู่ที่ 30% โดย ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองที่มีสัดส่วนเจ้าของสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขสูงที่สุด ขณะที่ กว่างโจวและปักกิ่ง มีสัดส่วนเจ้าของแมวสูงที่สุด และ จำนวนสัตว์เลี้ยงทั้งหมดในจีน ในปี 2024 อยู่ที่ 124.1 ล้านตัว โดยหลัก ๆ แบ่งเป็นแมว 71.5 ล้านตัว เพิ่มขึ้น 2.5% และสุนัข 52.6 ล้านตัว เพิ่มขึ้น 1.6%

ส่วนการบริโภคอาหารสัตว์ พบว่า การบริโภคอาหารแมวเริ่มมีจำนวนมากกว่าอาหารสุนัข สะท้อนว่าผู้บริโภคจีนให้ความนิยมกับการเลี้ยงแมวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมองว่าแมวต้องการการดูแลกลางแจ้งน้อยกว่าและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนในเมือง ซึ่งต้องเผชิญข้อจำกัดด้านเวลาทำงานและพื้นที่อยู่อาศัย และความนิยมอาหารสัตว์ กลุ่มเจ้าของสุนัขนิยมอาหารแห้งอบ อาหารแช่แข็ง และอาหารสดเพิ่มขึ้น และกลุ่มเจ้าของแมวนิยมอาหารแห้งอบ และอาหารสดเพิ่มขึ้น ขณะที่ความนิยมในอาหารแช่แข็ง และอาหารที่ผ่านการอัดขึ้นรูป ลดลง โดยผู้บริโภคได้พัฒนาไปสองขั้ว คือ 1.ตลาดอาหารสัตว์ระดับพรีเมียม เพราะตระหนักถึงโภชนาการและสุขภาพของสัตว์เลี้ยง และ 2.ราคาประหยัด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์ แต่ยังต้องการอาหารสัตว์ที่มีคุณภาพ รวมทั้งนิยม ซื้ออาหารสัตว์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เช่น Taobao , Tmall และ JD.com แต่ TikTok ก็มีอัตราการเติบโตมากขึ้น

จากแนวโน้มการเติบโตของผู้เลี้ยงสัตว์ และตลาดอาหารสัตว์ในจีนดังกล่าว ถือเป็นโอกาสดีของผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย ทั้งการเจาะกลุ่มอาหารสัตว์พรีเมียม หรือกลุ่มอาหารสัตว์ราคาประหยัด โดยต้องพัฒนานวัตกรรมการผลิตและมาตรฐานของสินค้าให้ตอบสนองความต้องการ ซึ่งมั่นใจว่าจะขยายตลาดได้เพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบัน ไทยส่งออกอาหารสัตว์ไปจีนติด Top 3 และยังเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี โดยผู้ประกอบการนอกจากผลิตสินค้าให้ดี มีมาตรฐานแล้ว ควรพิจารณากลยุทธ์ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพสินค้าในกลุ่มราคาประหยัด หรือการเน้นเรื่องความแตกต่างในตลาดพรีเมียม และใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำตลาด ก็จะทำให้ขยายการส่งออกได้มากขึ้น นางสาวสุนันทา กล่าว

อนึ่ง ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password