คุยจีน…คุยรอบด้าน ถกทุกปัญหา เอาให้จบในรอบเดียว!
ข้อครหาที่ว่า…รัฐบาลจีน ส่งออก “ทุนจีนเทา” ไล่ให้พ้นประเทศตัวเอง! อย่าได้คิดและทำความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมชาติ
ส่วนจะไปหารับประทานที่ไหน? ดินแดนใด? ช่างหัวแก! ขอแค่อย่าให้ตกเป็นข่าวฉาว?
ฉาวเมื่อใด? ก็อย่าได้พาดพิงไปถึงรัฐบาลกลาง และ/หรือ รัฐบาลท้องถิ่น หากรับเงื่อนไขนี้ได้…เอาไปเลย เงินกู้ระดับล้านหยวนอัพ!
หลายคนคิด…สิ่งนี้ มิต่างจากข่าวลือ? แต่บ้างก็ว่า…หากไร้ไฟ ยังจะมีควันได้อย่างไรกัน?
แผนการที่ “นายกรัฐมนตรีไทย” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เตรียม “แพ็กกระเป๋า” เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ฉลองวาระสำคัญ “ครบรอบ 50 ปี” ความสัมพันธ์ ไทย-จีน ระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2568
มีประเด็นให้ คนไทยและ “คอการเมือง” ระดับภูมิภาคสำคัญๆ ของโลก ต่างจับจ้อง…
จะจำกัดวงของการหารือกับ นายสี จิ้นผิง อยู่แค่…ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5, ยาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่นที่ นายกฯแพทองธาร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (28 มกราคม) จริงหรือ?
“ดิฉันจะใช้โอกาสนี้ พูดคุยกับ ท่านประธานาธิบดีฯ สี จิ้น ผิง เกี่ยวกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่นควัน และเรื่องอื่นด้วยคิดว่าจีนก็อยากได้ความร่วมมือจากไทย เพราะเรามีความสัมพันธ์ระดับพี่น้องกันมาอยู่แล้ว และการพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป เพราะปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ ไทย-จีน ถ้ามีโอกาสก็จะหารือการเปิดการค้าไทยกับจีน” บางส่วนที่ นายกฯแพทองธาร บอกกับผู้สื่อข่าว
เหตุที่ต้องตั้งคำถาม? เพราะหลายปัญหาใหญ่ของโลก เช่น การละเมิดสิทธิมนุษยชน แผ่นดินใหญ่…ยังทำได้ไม่ดีและตอบคำถามจากฟากตะวันตกไม่ได้ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหานี้
และอีกหนึ่ง ปัญหาหนักอกของไทย นั่นคือ การระบายสินค้าราคาถูก ไร้คุณภาพ ไร้มาตรฐาน มอก. แถบบางรายการยังเข้าข่าย แอบลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาอีก
เหล่านี้…ล้วนสร้างความกังวลใจของ นายกฯแพทองธาร ถึงขนาดกำชับให้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ที่กำกับดูแลกรมศุลกากร คอยดูเรื่องนี้เป็นพิเศษ!
โดยเฉพาะ สินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูกจากประเทศจีน ได้สร้างปัญหาต่อประเทศที่นำไปใช้ในหลายมิติ ทั้งความเป็น สินค้าราคาถูก (คุณภาพต่ำ) ตีตลาดสินค้าทั่วไป ที่ได้มาตรฐานสำคัญๆ ของประเทศ จนหลายแบรนด์ทั้งของไทยและสากล อยู่กันไม่ได้
ยังจะสร้างปัญหาจากอันตรายจาก…ไฟรั่ว ไฟช็อต ไฟไหม้ สารพัด อีกมากมาย สุดท้าย…ประเทศปลายทางที่รับสินค้าเหล่านี้เข้าประเทศ มิต่างจากการเป็น “ถังขยะอิเล็กทรอนิกส์” ให้กับประเทศผู้ผลิตฯที่อยู่ต้นทาง
กลับสู่ ปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ที่ก่อนหน้านี้ “พ่อของนายกฯแพทองธาร” นายทักษิณ ชินวัตร เคยประกาศบนเวทีหาเสียงเลือกตั้ง “นายก อบจ.” ในหลายจังหวัด ว่า ภายในปีนี้เรื่องแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จะหมดไป เรื่องนี้จะกลายเป็นแรงกดดันต่อการหารือกับฝ่ายจีนหรือไม่?
คำตอบที่พอสรุปให้สั้นและกระชับก็คือ…
“สิ่งที่นายทักษิณกล่าวไป ล้วนเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ทั้งการปราบยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่นควัน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำให้สำเร็จ การได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านจะช่วยเร่งกระบวนการนี้ให้สำเร็จเร็วขึ้น”
ส่วนเรื่อง “ข่าวไม่สู้ดี” ที่โซเชียลฝั่งจีน ร่วมกันปั่นกระแส จนกลายเป็นข่าวด้านลบกับไทยนั้น แม้เรื่องนี้…จะมีการหารือในระดับหน่วยงานที่รับผิดชอบไปบ้างแล้ว ทว่าการเดินทางไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการรอบนี้ ฝ่ายไทยก็ควรจะต้องหารือและขอความร่วมมือจากจีน โดยเฉพาะการใช้ AI ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ พร้อมทำความเข้าใจในข้อเท็จจริงเป็นภาษาจีน
ไหนๆ ก็จะเดินทางไปเยือนจีน มีโอกาสได้พบและพูดคุยอย่างเป็นทางการกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถึงกรุงปักกิ่ง อยู่แล้ว ก็น่าที่ นายกฯแพทองธาร ควรหยิบยกประเด็นที่คนไทยและรัฐบาลข้องใจไปหารือ แม้จะไม่กล้าหยิบเรื่องที่โลกอยากรู้ไปคุยก็ตามที่
ได้ชื่อว่า “จีน-ไทย…พี่น้องกันอยู่แล้ว” ก็คุยให้มันจบในคราวเดียวไปเลย!!!.