‘กรมทรัพย์สินทางปัญญา’ เปิดเวทีรับฟังความเห็นเอกชน 5 ชาติเร่งพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยสู่เวทีโลก
กรมทรัพย์สินทางปัญญาหารือภาคเอกชน 5 ประเทศ “สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้” รับฟังความคิดเห็น ประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะ เพื่อพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้แข็งแกร่ง วางกลยุทธ์การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สร้างความเชื่อมั่นประเทศคู่ค้าและนักลงทุน
นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมการสร้างสรรค์และนวัตกรรม ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและการมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการลงทุนในประเทศไทย ดังนั้น กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จึงได้ประชุมร่วมกับ ผู้แทนภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการคุ้มครองและการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย รวมทั้งแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินงานและแผนการขับเคลื่อนภารกิจด้านทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศ
ทั้งนี้ การรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาการคุ้มครองและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาให้เกิดประโยชน์สูงสุด การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับทรัพย์สินทางปัญญาของไทย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังเป็นโอกาสที่ไทยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันกับภาคเอกชนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับไทยในการยืนยันความมุ่งมั่นและพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้กับนานาประเทศ และช่วยผลักดันไทยให้หลุดจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง หรือ Watch List ของสหรัฐฯ อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้แทนภาคเอกชนมีการตอบรับที่ดีและแสดงความชื่นชมการจัดการประชุมรับฟังความเห็นในครั้งนี้ที่ได้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและเสริมสร้างความโปร่งใสในการดำเนินงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยให้ภาคเอกชนต่างประเทศรับทราบข้อมูลความคืบหน้าด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ประเด็นการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา การยกระดับการให้บริการจดทะเบียนด้วยเทคโนโลยี และการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ภาคเอกชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาและยกระดับการอำนวยความสะดวกและการให้บริการแก่ประชาชน และผู้ประกอบการ ต่อไป.