“ทีมไทยแลนด์” ภายใต้การนำของ “นายกฯแพทองธาร” เดินทางกลับไทย มาพร้อมกับกองทัพนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 4 ล้านที่เดินทางเข้าไทยในห้วง 10 วัน ระหว่าง 24 ม.ค. – 2 ก.พ.2568 ที่สุด! ทางการไทย…จะรับมือพวกเขาเหล่านั้น เพื่อร่วมการเฉลิมฉลองตรุษจีนกัน ท่ามกลางสารพัดปัญากันอย่างไร?

เสร็จสิ้นภารกิจ เข้าร่วมการประชุม  World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ระหว่างวันที่ 20-25 มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ล่าสุด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย นับแต่เมื่อช่วงสายของวานนี้ (26 มกราคม 2568)

ความสำเร็จที่บรรดาโฆษกรัฐบาลประกาศต่อสังคมไทย…มีมากมาย นับกันไม่หวาดไม่ไหว ทั้งในระดับพหุภาคี และทวิภาคี แม้กระทั่ง ระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชนในฝั่งยุโรป

เพราะมีฝีมือของ นายกรัฐมนตรีและ “ทีมไทยแลนด์” ชุดใหญ่ ล้วนๆ

การเดินทางกลับไทยของ นายกฯแพทองธาร ใกล้เคียงกับห้วงเวลาที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในเทศกาลตรุษจีนปี 2568

นักท่องเที่ยวชาติที่เข้ามายามนี้ มีทั้งชาวจีนและไม่ใช่ชาวจีน ตัวเลขที่ “รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” นางสาวศศิกานต์ วัฒนจันทร์ ให้ข้อมูลสำคัญคือ…การคาดการณ์ของกระทรวงคมนาคม ต่อที่ประเทศไทยจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ระหว่างวันที่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 น่าจะสูงกว่า 4 ล้านคน

กว่า 7 แสนคน เป็นนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มขึ้นประมาณ 22.6% ที่เหลือคือ นักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะฝั่งยุโรป ที่นักท่องเที่ยวหนีหนาวมาพึ่งไออุ่นของประเทศไทย

ในรอบ10 วันเต็มนี้ กับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีมากขนาดนี้ สมควรที่ภาครัฐจะต้องวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการรับมือกองทัพ “แขกต่างด้าว ท้าวต่างแดน” ทำอย่างไรจึงจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านั้น เกิดความรู้สึกประทับใจกับทุกประสบการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างพำนักอยู่ในดินแดนแห่งนี้

ไม่เฉพาะ ปัญหาการหลอกลวง และการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวต่างชาติ ของคนไทยบางคน? หากยังมีมิจฉาชีพจากสารพัดประเทศเพื่อนบ้าน ที่เข้ามาปฏิบัติการเชิงลบ พร้อมทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยและคนไทยอีกมากมาย

รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหาทางรับมือกันอย่างไร?

แล้วยังจะมีเรื่องของ ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่อาละวาดไปทั่วแคว้นแดนสยาม จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจาดตะวันตก เรียกว่า…โดนปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 คละคลุ้งตลบอบอวลทั่วทุกหัวระแหง

สิ่งนี้…อาจทำลายการท่องเที่ยวของไทยได้ไม่ต่างกัน!!!

3 วัน…ในรอบสั 10 วัน กับตัวเลขคาดหวังกว่า 4 ล้านคน การรับมือนักท่องเที่ยวต่างชาติเหล่านั้น ควรเริ่มต้นตั้งแต่ปากประตูทางเข้าบ้าน นั่นคือ…สนามบินนานาชาติหลัก อย่าง…สนามบินสุวรรณภูมิ ได้อย่างไร?

เรื่องนี้ “รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” อ้างถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ นั่นคือ กรณี บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ร่วมมือกับหน่วยงานในท่าอากาศยานต่างๆ จัดเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในทุกจุดบริการทั้งขาเข้าและขาออก เช่น ช่องตรวจคนเข้าเมือง การรับกระเป๋าสัมภาระ การเช็คอิน และการตรวจค้น จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาเพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำแก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังเสริมเจ้าหน้าที่เวรนอกเวลาเพื่อให้บริการทุกช่วงเวลา

โดย ทอท. ประมาณการปริมาณจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ในช่วง 7 วันที่ว่านี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่า...มีผู้โดยสารประมาณ 4.03 ล้านคน หรือเฉลี่ย 403,182 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 10.4% และมีเที่ยวบิน 24,599 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 2,460 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 16.7% สามารถจำแนกผู้โดยสาร ดังนี้…

1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.). มีผู้โดยสาร 1.91 ล้านคน หรือเฉลี่ย 190,890 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 6.3% และมีเที่ยวบิน 11,238 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 1,124 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 15.4%

2.ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) มีผู้โดยสาร 989,584 คน หรือเฉลี่ย 98,958 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 15.1% และมีเที่ยวบิน 6,452 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 645 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 14.3%

3. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.). มีผู้โดยสาร 340,136 คน หรือเฉลี่ย 34,014 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 17.5% และมีเที่ยวบิน 2,082 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 208 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 19.3%

4. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) มีผู้โดยสาร 68,708 คน หรือเฉลี่ย 6,871 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 25.7% และมีเที่ยวบิน 410 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 41 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 18.8%

5. ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) มีผู้โดยสาร 628,173 คน หรือเฉลี่ย 62,817 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 9.6% และมีเที่ยวบิน 3,809 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 381 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 23% และ

6. ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) มีผู้โดยสาร 96,318 คน หรือเฉลี่ย 9,632 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 20.6% และมีเที่ยวบิน 608 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 61 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 19.4%

สำหรับการดูแลด้านความปลอดภัยของสนามบิน “รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” ย้ำว่า….ทอท. ได้ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยระบบการจัดการด้านนิรภัย เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการของสนามบินมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมทั้งการป้องกันอันตรายจากสัตว์ ได้ดำเนินการสำรวจและประเมินอันตรายจากนกและสัตว์ในเขต Airside ตรวจสอบระบบนิเวศภายในและรอบสนามบินอย่างต่อเนื่อง มีการรับมือเหตุการณ์เกี่ยวกับนกหรือสัตว์ เช่น อากาศยานชนนก/ชนสัตว์ โดยเจ้าหน้าที่จะเข้าเก็บหลักฐานและรายงานตามขั้นตอน การดำเนินงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) และ ICAO (องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ) ตรวจสอบและติดตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า…เทศกาลตรุษจีนปีนี้ อาจมีผู้โดยสารเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามการให้บริการได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง