คลังพร้อมแจกเงินหมื่น เฟส 2 เช้ามืด 27 ม.ค.นี้ คนสูงวัย 3 ล้านคนเศษ รอรับแจกผ่านบัญชีพร้อมเพย์ได้เลย ส่วนเฟส 3 เริ่มทดสอบระบบจ่ายเงินผ่านดิจิทัล วอลเล็ต แล้ว มั่นใจ! โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งแจกเงินหมื่น 3 เฟส รวมกับโครงการไร่ละพัน และ Easy e-Receipt จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยโตขึ้น

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะทำการโอนเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 10,000 บาท ให้กับผู้สูงอายุราวกว่า 3 ล้านคน ในคืนวันที่ 26 มกราคม ซึ่งเข้าสู่วันที่ 27 มกราคม 2568 ตามแผนการเดิม โดยจะโอนเงินวันเดียว ทั้งนี้ ผู้สูงอายุจะต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ก่อนวันที่ 27 มกราคม เนื่องจากโอนเป็นเงินสด ซึ่งที่ผ่านมามักเกิดปัญหาในระบบพร้อมเพย์  ทั้งนี้ สามารถตรวจเช็คสิทธิ์ของตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้ (22) เป็นต้นไป

ส่วนเฟส 3 ที่รัฐบาลวางแผนจะโอนเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2568 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ในเฟส 3 ราว 15 ล้านคน ตามงบประมาณที่มี 1.5 แสนล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ อาจต้องเปิดให้มีการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ในโอกาสต่อไป

รมช.คลัง ย้ำว่า นับจากที่รัฐบาลโอนเงิน 10,000 บาทให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มคนพิการไปก่อนหน้านี้ในวงเงินราว 1.4 แสนล้านบาท หากนับรวมกับโครงการอื่นๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมถึงโครงการที่เตรียมจะดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการไร่ละพัน โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 ราว 3 หมื่นล้านบาทเศษ และเฟส 3 อีกราว 1.5 แสนล้านบาท รวมกับโครงการ Easy e-Receipt แล้ว เชื่อว่าจะสามารถสร้างโมเมนตัม (การขับเคลื่อน) ทางเศรษฐกิจได้เป็นที่น่าพอใจ

ซึ่งในส่วนของ โครงการ Easy e-Receipt แม้จะยังไม่เห็นตัวเลขที่แน่ชัด จนกว่าจะถึงสิ้นปีและมีการยื่นแสดงรายการเสียภาษี แต่ก็พบว่าได้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเป็น การสร้างโอกาสที่ดีต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน (สินค้า OTOP) ทั้งในแง่ของ ยอดขายสินค้าและการสร้างพื้นที่กระจายสินค้าทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและสถานีบริการน้ำมัน โดยพบว่ามีร้านค้าที่ร่วมโครงการฯเพิ่มขึ้น 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือราว 12,000 ร้านค้า อีกทั้งยังมีช่องทางการขายสินค้าของเอสเอ็มอีและโอทอปเพิ่มถึงกว่า 1 แสนช่องทาง คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในส่วนนี้ไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท.