“อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ” รับลูกนโยบายรัฐบาลต่อเนื่อง จัด “คณะผู้แทนการค้า” บุกตลาดข้าวอินทรีย์ในยุโรปและสหรัฐฯ พาผู้ประกอบการรายเล็กร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญระดับโลก ตั้งเป้าขยายตลาดข้าวอินทรีย์ไทย กระชับความสัมพันธ์การค้า ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็ก เสริมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระดับสากล เผย! ยอดส่งออกข้าวอินทรีย์ ม.ค. – พ.ย.67) สูงถึง 20,104 ตัน มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท มั่นใจขยายตลาดสินค้ากลุ่มนี้ได้อีกมาก

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2568 กรมการค้าต่างประเทศมีแผนดำเนินโครงการส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวอินทรีย์ไทย โดยมีกำหนดจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทาง  ไปเจรจาขยายตลาดและกระชับความพันธ์ทางการค้า ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐอิตาลี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงเดือนมีนาคม 2568 โดยการดำเนินโครงการดังกล่าว มีกิจกรรมสำคัญในการ พบปะเจรจาหารือกับหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้องกับข้าวอินทรีย์ และ ผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อขยายโอกาสในการส่งออก ข้าวอินทรีย์และผลิตภัณฑ์จากข้าวอินทรีย์

นอกจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรม รณรงค์บริโภคข้าวอินทรีย์ไทย “Healthy Life by Thai Organic Rice” ร่วมกับ ร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในนครแฟรงก์เฟิร์ต  และนครลอสแอนเจลิส โดยจะเชิญ ผู้นำเข้ารายสำคัญ Influencers ท้องถิ่น และสื่อมวลชนมาร่วมกิจกรรม รวมถึง การจัดกิจกรรมมอบเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย (ตราเขียว) ให้กับร้านอาหารไทยที่ได้รับตรา Thai SELECT ที่ขออนุญาตใช้เครื่องหมายดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย รวมถึงกระตุ้นการบริโภคข้าวหอมมะลิไทยควบคู่กับอาหารไทยในตลาดต่างประเทศ

ในช่วงเวลาดังกล่าว กรมฯ จะพาผู้ประกอบการที่เป็นวิสาหกิจชุมชม และ SMEs รวมกว่า  10 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้า BIOFACH 2025 ณ เมืองนูเรมเบิร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 11 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 และงานแสดงสินค้า Natural Products Expo West (NPEW) 2025 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 4 – 7 มีนาคม 2568 ซึ่งทั้งสองงานเป็น งานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์นานาชาติชั้นนำ ที่มีการรวบรวมผู้จัดแสดงสินค้าและผู้เข้าชมจากทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ทั่วโลก เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของข้าวไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงกว้างมากขึ้น และช่วยสร้างเครือข่ายการค้าให้ธุรกิจ SMEs สามารถเข้าถึงและขยายตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศได้ด้วยตนเอง

“การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญระดับโลกทั้งสองงานดังกล่าวจะเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของข้าวอินทรีย์ไทยในเวทีโลก และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ   ข้าวอินทรีย์รายเล็กของไทยกับคู่ค้าในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดที่มีความต้องการสินค้าธรรมชาติ และปลอดสารเคมีซึ่งเป็นการดำเนินการที่สำคัญ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์)” นางอารดา กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตลาดสหรัฐฯ และยุโรป มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำและศูนย์กลางการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงข้าวอินทรีย์ของโลก ซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับ สถิติการส่งออกข้าวอินทรีย์ของไทยในปี 2567 (ม.ค. – พ.ย.) พบว่า ไทยส่งออกข้าวอินทรีย์ ปริมาณ 20,104 ตัน มูลค่า 979 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ที่มีปริมาณส่งออก 15,870 ตัน มูลค่า 760 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 26.68 และ 28.82 ตามลำดับ โดย ตลาดส่งออกหลักเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูงที่ผู้บริโภคใส่ใจในสุขภาพและให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น สหรัฐฯ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และเยอรมนี เป็นต้น.