‘พาณิช์’ แนะผปก.สุขภาพไทย เร่งสยายปีกรุกฮ่องกง เจาะลูกค้า ‘ฮ่องกง-จีน’ รับนโยบายฮับนวัตกรรมสุขภาพโลก
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย! ฮ่องกงผลักดันสู่ “ศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก” หวังเสริมความแข็งแกร่งด้านสาธารณสุข ชี้! เป็นโอกาสของผู้ประกอบการด้านสุขภาพของไทย แนะขยายธุรกิจไปยังฮ่องกง เจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคทั้งในฮ่องกงและจีน
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯได้มอบนโยบายให้ ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เร่งผลัดดันการส่งออกให้ไทยเติบโต 2-3% ตามเป้าปี 2568 ล่าสุด ได้รับรายงานจาก น.ส.พรรณกาญจน์ เจียมสุชน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ถึงการกำหนดนโยบายผลักดันฮ่องกงไปสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก เพื่อเสริมความแกร่งด้านระบบสาธารณสุข และโอกาสของผู้ประกอบการไทยในกลุ่มการดูแลสุขภาพ ที่จะเข้าไปลงทุน หรือร่วมลงทุนกับนักลงทุนชาวฮ่องกง เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดฮ่องกงและจีน
ทั้งนี้ โดย ทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า เมื่อต้นเดือน 2567 ที่ผ่านมา Professor Lo Chung-mau, the Secretary for Health ได้เข้าพบกับ Ms.GuoYanhong, Vice-minister of the National Health Commission ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ระดับโลก รวมถึงการปฏิรูประบบสาธารณสุขอย่างครอบคลุม ตามที่ได้ระบุไว้ใน “คำแถลงนโยบายปี 2024” ของผู้บริหารสูงสุด (The Chief Executive’s 2024 Policy Address)
อย่างไรก็ตาม ฮ่องกงได้แจ้งความคืบหน้าแผนพัฒนาเขตความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนวัตกรรม “Hetao Shenzhen-Hong Kong Science and Technology Innovation Cooperation Zone (HTCZ)” ที่เป็นความร่วมมือในการพัฒนา “หนึ่งเขต สองอุทยาน” ระหว่างเซินเจิ้นและฮ่องกง โดยล่าสุด ได้เปิดสถาบันการทดลองทางคลินิกระหว่างประเทศในเขต GBA (Greater Bay Area International Clinical Trial Institute) หรือ เขตเศรษฐกิจพิเศษอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า” (Greater Bay Area: GBA) ที่ประกอบด้วย 9 เมือง 2 เขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ 9 เมือง ในมณฑลกวางตุ้ง (Guangdong province) ประกอบด้วย กว่างโจว (Guangzhou) เซินเจิ้น (Shenzhen) จูไห่ (Zhuhai) ฝอซาน (Foshan) ฮุ่ยโจว (Huizhou) ตงกวน (Dongguan) จงซาน (Zhongshan) เจียงเหมิน (Jiangmen) จ้าวชิง (Zhaoquing) และ 2 เขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่าง ฮ่องกง และมาเก๊า โดย เซินเจิ้นได้เปิดศูนย์การทดลอง Greater Bay Area International Clinical Trials Center of the Shenzhen Municipality เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ รัฐบาลฮ่องกงยังประกาศว่าจะเสริมสร้างความยั่งยืนของระบบสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น โดยเดินหน้าพัฒนาบริการสาธารณสุข ขยายความร่วมมือทางการแพทย์ในเขต GBA และศึกษาการจัดตั้งกลไกความช่วยเหลือด้านการปลูกถ่ายอวัยวะในระยะยาว เพื่อรักษาสถานะระดับโลกและเสริมสร้างความได้เปรียบทางวิชาชีพการแพทย์ของฮ่องกงในภูมิภาคนี้
“จากการที่ รัฐบาลฮ่องกง มีนโยบายส่งเสริมให้ประชากรมีสุขภาพที่ดี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบสาธารณสุขของฮ่องกงและผลักดันให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก ไม่เพียงแต่การจัดตั้ง ศูนย์วิจัยด้านสาธารณสุขที่ร่วมมือกับเขตเมืองใน GBA เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเปิดกว้างให้กับการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์ดั้งเดิม และการนำเข้าเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยจากนานาชาติ ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยที่มีจุดเด่นในด้านการจัดการธุรกิจสุขภาพ และเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพที่สนใจจะขยายธุรกิจในต่างประเทศ เนื่องจากฮ่องกงมีการส่งเสริมด้านการแพทย์ในเส้นทางของ GBA” น.ส.สุนันทา กล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169.