‘ไรซ์แฟคทอรี่’ ติดปีกข้าวอินทรีย์แดนอีสาน สร้างรายได้สู่ชุมชน – SME D Bank เติมทุนต่อยอดผลิตภัณฑ์ ดันเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้วยความมุ่งมั่น ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในท้องถิ่นบ้านเกิด “ชบา ศรีสุโน” ลูกหลานชาวนาในหมู่บ้านเล็ก ๆ  ของจังหวัดนครพนม  บุกเบิกธุรกิจผลิต แปรรูป และจำหน่ายข้าวอินทรีย์ที่มีนวัตกรรม และเทคโนโลยีทันสมัย ช่วยเพิ่มมูลค่า สามารถขยายตลาด ด้วยจุดเด่นเป็นสินค้าดีต่อผู้บริโภค ผู้ปลูก และสิ่งแวดล้อม  โดยมี SME D Bank เป็นแรงหนุนเติมทุนคู่พัฒนา ขับเคลื่อนให้ธุรกิจเดินไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืน

ชบา ศรีสุโน เจ้าของธุรกิจ บริษัท ไรซ์แฟคทอรี่ จำกัด  เล่าว่า ชีวิตในวัยเด็ก เติบโตในครอบครัว ประกอบอาชีพชาวนา ที่ต้องเผชิญปัญหาราคาข้าวตกต่ำเรื่อยมา รวมถึงผู้ปลูกมักมีสุขภาพย่ำแย่ จากผลกระทบการใช้สารเคมีในการทำเกษตร  เหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ลุกขึ้นมาสร้างธุรกิจผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์ครบวงจรที่ดีต่อผู้บริโภคและผู้ปลูก รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ข้าวอินทรีย์มีช่องทางและโอกาสทางการตลาดสูงมาก เพราะปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อสุขภาพ ชบาเลยเริ่มจากทำโรงงานผลิตและแปรรูปข้าวอินทรีย์เล็ก ๆ  นำภูมิปัญญาท้องถิ่นการแปรรูป “ข้าวฮางงอก” (ข้าวกล้องเพาะงอก) จนกลายเป็นสินค้าหลักของเรา”  ชบา เผยถึงจุดเริ่มธุรกิจ

เทคโนโลยี และนวัตกรรม คือ หัวใจสำคัญที่ บริษัท ไรซ์แฟคทอรี่ จำกัด  ใช้เป็นแกนหลักในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าวอินทรีย์ ดังนั้น แม้ว่าจะเป็นสินค้าท้องถิ่นปลูกโดยชาวบ้าน แต่ถูกยกระดับติดปีกเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยีการผลิตระดับสูงทำให้มี “มาตรฐาน” ระดับสากล นำเสนอในบรรจุภัณฑ์สวยงามน่าซื้อ อีกทั้ง ต่อยอดด้วย “นวัตกรรม” ในการแปรรูปให้ข้าวอินทรีย์พัฒนาเป็นสินค้านานาชนิด  ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มรักษารักสุขภาพ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเบาหวาน  เช่น ซุปครีมข้าว  เส้นขนมจีนอบแห้ง แป้งข้าวฮางงอก ผงรำข้าว ข้าวเกรียบ และลูกประคบข้าวสมุนไพร เป็นต้น

ทั้งนี้ การจะมีเทคโนโลยี และนวัตกรรม ได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยเงินทุน เพื่อซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึง หมุนเวียนในกิจการ  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  โดยสาขานครพนม  เข้ามาสนับสนุนเติมทุน ช่วยให้บริษัท ไรซ์แฟคทอรี่ จำกัด  สามารถดำเนินตามแผนยกระดับข้าวอินทรีย์ที่ไว้วางได้สำเร็จ

เมื่อสินค้าสามารถขายได้มูลค่าสูงขึ้น ก็จะทำให้เราสามารถไปรับซื้อผลผลิตข้าวอินทรีย์จากเกษตรกรในท้องถิ่นได้ในราคาสูงขึ้นด้วย นอกจากนั้น ยังเป็นการจูงใจให้เกษตรกรรายอื่นๆ  อยากจะเปลี่ยนจากการปลูกข้าวโดยใช้สารเคมี มาสู่การปลูกแบบอินทรีย์  ส่งผลดีต่อสุขภาพของเขา รวมถึง สิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ก็ดีไปด้วย”  ชบา กล่าวถึงประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่าข้าวอินทรีย์

ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ของไรซ์แฟคทอรี่  มีหลากหลายแบรนด์ เช่น ข้าวฮางแม่สุ  ชบาแก้ว  ThaiNa ฯลฯ ผ่านช่องทางจำหน่าย เช่น ห้างค้าปลีกค้าส่ง  โรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เป็นต้น  นอกจากนั้น ยังได้ส่งออกไปต่างประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น รวมทั้งยังรับจ้างผลิต OEM อีกด้วย

ด้วยความตั้งใจส่งมอบสินค้าเกษตรคุณภาพดีจากบ้านเกิดสู่ผู้บริโภค นับเป็นความภาคภูมิใจของ “ไรซ์แฟคทอรี่” ที่สามารถพาข้าวอินทรีย์จากแดนอีสาน ขยายตลาดกว้างไกลทั้งในและต่างประเทศ  รวมถึง ยังเป็นที่พึ่งของเกษตรกรท้องถิ่น ให้มีอาชีพ มีรายได้ นำไปสู่สังคมแห่งความสุข รักษาสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าสู่ความยั่งยืน ตลอดไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password