“รองปลัดพาณิชย์” เดินหน้าแก้ราคามันสำปะหลัง สั่งเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้อง รับรู้และใช้ประโยชน์จากหลายมาตรการของรัฐบาล กำชับ “สำนักงานพาณิชย์จังหวัด – กรมการค้าภายใน – หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” บังคับใช้กฎหมายเข้มงวด ตั้งแต่ติดป้ายแสดงราคารับซื้อ การชั่งน้ำหนัก การวัดเชื้อแป้ง การควบคุมการขนย้าย หวังสร้างความเป็นธรรมแก่เกษตรกร รวมถึงติดตามและรายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาทันที

ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลัง ประชุมติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณมันสำปะหลัง ร่วมกับ กรมการค้าภายใน และ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพื้นที่ที่เป็นแหล่งเพาะปลูก เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า ในช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค. 68 เป็นช่วงที่ผลผลิตออกมาก โดย มันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจที่เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ดังนั้น นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านราคาให้แก่เกษตรกร โดยเพิ่มการใช้ภายในประเทศ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานได้ประสานไปยัง โรงงานผลิตอาหารสัตว์และผู้เลี้ยงปศุสัตว์ เช่น สุกร และโคนม เพื่อเชื่อมโยงและเพิ่มปริมาณการใช้ ขณะเดียวกัน กรมการค้าต่างประเทศก็เร่งเดินหน้าขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลัง รวมทั้งหาตลาดในอุตสาหกรรมใหม่ที่จะสามารถใช้มันสำปะหลังหรือแป้งมันเป็นวัตถุดิบ เพื่อทดแทนตลาดส่งออกเดิมที่ชะลอตัว

โดยการประชุมครั้งนี้ มีการซักซ้อมความเข้าใจถึงมาตรการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 จำนวน 4 โครงการ ภายใต้งบประมาณรวม 368 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) การชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกให้ผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดึงผลผลิตออกจากตลาด 2) สินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้สามารถรวบรวมมันสำปะหลังจากเกษตรกรเพื่อจำหน่ายต่อหรือสร้างมูลค่าเพิ่ม 3) ยกระดับศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลังให้กลุ่มเกษตรกรโดยใช้เครื่องสับมันสำปะหลังเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการผลิต การแปรรูปและการจำหน่ายแก่ผู้ซื้อโดยตรง และ 4) เพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกให้เกษตรกร โดยการสนับสนุนเงินทุนเพื่อพัฒนาการผลิตและลดต้นทุนโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิย์ได้เตรียมมาตรการรองรับเพิ่มเติ่ม โดยพร้อมที่จะให้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าไปเปิดจุดรับซื้อในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านการรับซื้อหรือมีปัญหาด้านราคา โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดกระจุกตัว เพื่อที่จะกระตุ้นกลไกตลาดให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดใดที่มีความจำเป็น คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัด (คพจ.) ของจังหวัดนั้นๆ สามารถแจ้งความประสงค์ในการเปิดจุดรับซื้อมายังกรมการค้าภายในได้

“กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด เร่งทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องได้ทราบถึงมาตรการของรัฐบาลในเรื่องนี้ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากมาตรการต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งกำชับให้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดร่วมกับกรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ การชั่งน้ำหนัก การวัดเชื้อแป้ง การควบคุมการขนย้าย เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่เกษตรกร ตลอดจนติดตามและรายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างรวดเร็วเพื่อจะได้เร่งแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที” ร้อยตรีจักรา กล่าว.