รมว.พาณิชย์ ให้สังคมรอฟังคำตอบที่ชัดเจนจากกระทรวงการคลัง ปมปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% ย้ำ!นโยบายรัฐบาลคือดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้าน “แกนนำองค์กรภาคเอกชน” ประสานเสียง “ไม่เห็นด้วย” ชี้! เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังไม่ดี แนะรัฐบาลรพิจารณาให้รอบด้าน เชื่อ! หากขึ้นภาษีฯอาจทำให้คนหนีภาษีเพิ่มขึ้น   

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลมีแนวคิดการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากเดิม 7% เป็น 15% ว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิดว่าจะมีการปรับ VAT อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับข้อเท็จจริง ตนอยากให้ไปถามที่กระทรวงการคลังซึ่งรับผิดชอบการจัดเก็บรายได้ (ภาษี) ของประเทศมากกว่า รวมทั้งความกังวลต่อเนื่องถึงผลกระทบกับเงินเฟ้อ ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายรอผลสรุปที่แน่นอนก่อน โดยขอให้เชื่อมั่นว่า นโยบายรัฐบาล คือการดูแลประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงไม่อยากทุกฝ่ายรู้สึกกังวลใจ เพราะทุกเรื่องรัฐบาลจะมีคำตอบให้กับสังคมอย่างแน่นอน

ด้าน นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  เรื่องนี้ที่ผ่านมา ก็ต้องขอบคุณรัฐบาล เพราะภาษี  VAT มีเพดานจะต้องขยับขึ้นไปที่ 10% นานแล้ว แต่ได้รับการชะลอเอาไว้จากรัฐบาลที่ผ่านๆ มา เนื่องจากภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีไม่ถึง 2% โดยเพิ่งจะโตในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.8%  จึงถือว่าเร็วเกินไปที่จะขยับ VAT ขึ้นมาทันที แต่ควรไปยกระดับศักยภาพเอสเอ็มอี ให้มีความสามารถในการเข้าสู่ระบบภาษี เพราะขณะนี้ ยังมีเอสเอ็มอีจำนวนมากที่หลบเลี่ยงภาษีอยู่  รวมทั้งช่องทางการขายอีคอมเมิร์ซ ที่ยังไม่สามารถเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ถือเป็นเม็ดเงินมหาศาล ที่หากจัดเก็บภาษีในส่วนนี้ได้ จะมีเงินไหลเข้าสู่ประเทศทันที และยังเป็นการสร้างความยุติธรรมให้กับภาคธุรกิจด้วยกันที่เสียภาษีถูกต้อง ทั้งนี้ หากปรับขึ้นจริง เชื่อว่าจะยิ่งทำให้การหลบเลี่ยงภาษีมีมากขึ้นไปอีก

“เร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น จึงอยากให้รอความชัดเจนก่อน แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะรับฟังความเห็นของภาคเอกชน ซึ่งขณะนี้ ได้เสนอแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยับไปถึง 5% ถือเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ถือเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ประเทศหลุดจากกับดัก ประเทศ รายได้ปานกลาง” นายสนั่น ย้ำ

ขณะที่ นายแสงชัย  ธีรกุลวานิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า การขึ้น VAT ไปที่ 15% ยังไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่ยังเจอกับเรื่องค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นด้วย เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชน หรือแม้แต่การขยับขึ้นไปที่เพดาน 10% ก็ยังไม่ควรดำเนินการตอนนี้ เพราะมองว่า มีหลายเรื่องที่ควรดำเนินการก่อน  ดังนั้น ทางออกคือการทำให้เศรษฐกิจนอกระบบ กลับเข้ามาอยู่ในระบบ โดยการจูงใจให้ทำธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งในภาพรวมเศรษฐกิจนอกระบบของไทย มีสัดส่วนถึง 49% ของจีดีพี และแก้ปัญหานอมินีต่างชาติ มาอาศัยช่องทางทำให้เงินไหลออกต่างประเทศได้.