“นภินทร ศรีสรรพางค์” ประกาศชัด! ก่อนสิ้นปี 2569 “นอมินีอำพรางต้องหมดไป!” ประกาศจัดทัพทำแผน 3 ระยะ แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม หลังประชุมติดตามความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ย้ำ! หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเดินหน้าตามแผน “ระยะสั้น-กลาง-ยาว” ตีเส้นต้องจบ 4 ธ.ค. ก่อนชงเข้าที่ประชุมชุดใหญ่ ที่มี รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน 9 ธ.ค.นี้   

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็น ประธานการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ครั้งที่ 2 ว่า วานนี้ (27 พฤศจิกายน) ได้มอบหมายให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเชิญหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การทำงานของคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามฯ เข้าร่วมประชุมจำนวน 10 หน่วยงาน ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมการจัดหางาน กรมการท่องเที่ยว กรมที่ดิน และกรมสรรพากร โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุมในครั้งที่ 1 และที่ประชุมได้มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานปราบปรามการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนอมินี(Nominee) และมูลค่าความเสียหายเป็นประจำทุกเดือนเพื่อจะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเป็นข้อมูลสำคัญเพื่อพร้อมปรับปุรงแผนดำเนินการให้สอดรับกับปัจจุบัน

สำหรับ การประชุมครั้งที่ 2 นี้ ได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) เป็นแผน 3 ระยะ คือ แผนระยะสั้นดำเนินการภายใน 3 เดือน ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ซึ่งได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ประกอบกับลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจที่เข้าข่ายนอมินี และร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้กระทำผิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตือนภัยให้ประชาชนระมัดระวังตัวและทราบถึงการกระทำผิดในรูปแบบต่างๆ แผนระยะกลาง จะดำเนินการภายใน 12 เดือน เป็นการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลแต่ละหน่วยงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานกลาง ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และจะได้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำผิด และ แผนระยะยาว ใช้เวลาดำเนินการตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เป็นการปรับปรุงหรือเพิ่มเติมฐานความผิดมูลฐานจากการกระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวภายใต้กฎหมายของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อกำหนดให้การแก้ไขกฎหมายมีความชัดเจนและครอบคลุมการกระทำผิดมากยิ่งขึ้น

ทั้ง 3 แผนดังกล่าวจะสรุปแล้วเสร็จในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ในวันที่ 9 ธันวาคม โดยจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนนอมินีและมูลค่าธุรกิจทั้ง 5 กลุ่มดังกล่าว ตนเชื่อมั่นว่าแผนนี้จะทำให้นอมีนีอำพรางหมดไปจากประเทศไทยภายในปลายปี 2569 ได้แน่นอน

ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานที่กล่าวไปข้างต้นจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) เพื่อกำกับดูแลและป้องปราม รวมถึงสืบสวน สอบสวน หรือตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลและ นิติบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมเป็นนอมินีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแผนฯ นี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วภายใต้การบูรณาการการทำงานร่วมกันของคณะอนุกรรมการฯ อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องพร้อมทั้งจะมีการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีประสิทธิภาพและมีผลการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม

ที่สำคัญจะทำให้ประชาชนและนักลงทุนไทยเกิดความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจและไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้กระทำผิด อีกทั้ง เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยไม่เพิกเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น กระทรวงพาณิชย์จะเร่งติดตามการดำเนินงานพร้อมหารือถึงความคืบหน้าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นระยะต่อไป.