บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ร่วมกับ สถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (Carbon Institute for Sustainability: CBiS) จัดทำหลักสูตร สำหรับบุคคลทั่วไป มีจุดมุ่งหมายในการถ่ายทอดความรู้ด้าน Climate Change สำหรับ บุคคลทั่วไป และ SMEs ผู้ที่ต้องการพัฒนาองค์กรและธุรกิจในทิศทางที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

นายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบเพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่อง Climate Change เบื้องต้นที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถต่อยอดไปสู่ความรู้ในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการตั้งรับผลกระทบจากการปล่อยคาร์บอนในธุรกิจ โดยเนื้อหาของหลักสูตรจะครอบคลุมเรื่องการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการคาร์บอน และวิธีการลดการปล่อยคาร์บอนในองค์กร SMEs ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

“เป้าหมายที่เราตั้งไว้สำหรับหลักสูตรนี้คือการสร้างผู้ประกอบการ SMEs ที่สามารถประเมินและจัดการการปล่อยคาร์บอนในธุรกิจของตนได้ และต่อยอดไปสู่การสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอนและเศรษฐกิจสีเขียวในระดับโลก” นายอธิปกล่าว

นายอธิป กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการอบรมครั้งนี้คือการสร้างความตระหนักรู้และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าร่วมในกระบวนการลดการปล่อยคาร์บอน และนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้จริงในองค์กร ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมและสามารถยกระดับการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักการความยั่งยืนในระยะยาว

ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล ผู้อำนวยการสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน (CBiS) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง CBiS และ อินโนพาวเวอร์ จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของชุมชนและ SMEs ในการลดคาร์บอน เพื่อให้เกิดการพัฒนาในเชิงระบบ โดยเราจะมุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการประเมินและลดการปล่อยคาร์บอนในองค์กร โดยการใช้เครื่องมือที่สามารถตรวจวัดได้ และยังมีการเรียนรู้จากกรณีศึกษาที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการปรับปรุงระบบการผลิตให้มีประสิทธิภาพในการลดการปล่อยคาร์บอน

สำหรับผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะได้รับความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในการปรับปรุงระบบการจัดการคาร์บอนในธุรกิจ โดยเฉพาะการเรียนรู้การประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหมาะสมกับองค์กรของตนเอง พร้อมทั้งการจัดทำแผนการลดคาร์บอนที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และสามารถติดตามผลลัพธ์จากการลดคาร์บอนที่เกิดขึ้นในระยะยาว นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าร่วมจะได้รับทักษะในการนำเครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้ในการตรวจวัดและจัดการคาร์บอน และยังสามารถเชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต

ทั้งนี้ การเรียนรู้และเข้าใจในเรื่อง Climate Change นับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน บุคคลทั่วไป องค์กร หรือธุรกิจที่ต้องการเติบโตและพัฒนาในแนวทางที่ยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้ชุดความคิด และตัวอย่างที่เป็นประโยชน์ ในการทำให้หน่วยงานของผู้เรียนสามารถชับเคลื่อนการพัฒนาให้สอดคล้องไปในแนวทางของการปล่อยคาร์บอนต่ำและยั่งยืน

“ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากความร่วมมือครั้งนี้คือการขยายวงกว้างของการปฏิบัติตามแนวทางลดคาร์บอนในธุรกิจ SMEs และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจในระดับชุมชนที่สามารถแข่งขันได้ในเศรษฐกิจสีเขียวที่กำลังเติบโต”ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ กล่าว