คลังยอมถอย! รับต้องหารือ ‘พรรคร่วม’ ก่อนเดินหน้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
“จุลพันธ์” เสี่ยงอ่อย! หลังโดน “อนุทิน” ย้อนปม กระทรวงการคลังเร่งรัดชง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ภายในสิ้นปีนี้ ยอมรับต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน เพราะเป็นเรื่องใหญ่ มั่นใจเสียงสนับสนุนจากคนไทยส่วนใหญ่ แต่ขอเยียวยาชาวบ้านหลังน้ำท่วมก่อน
ย้ำ! หาก ครม.เห็นพ้อง เดินหน้าต่อได้ทันที ไม่จำเป็นต้องทำประชามติแต่อย่างใด ส่วนกรณี หน.พรรคภูมิใจไทย ดอดพบ นายกฯฮุน มาเนต ดึง “วัฒนธรรมร่วม” 2 ชาติ ขอไม่ออกความเห็น แต่ยืนยันไปเจรจาในนามรัฐบาลไทย
“เรื่องนี้…ต้นเรื่องมาจากสภาผู้แทนราษฎร กระทรวงการคลัง แค่รับมาดำเนินการต่อ”…นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อ้างถึงโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากที่ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง…นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะ “หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย” ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณี ที่ นายจุลพันธ์ เตรียมจะนำร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภายในปีนี้ โดยระบุว่า…เรื่องใดๆ ก็ตามที่จะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. รวมถึงนำเข้าไปหารือในสภาผู้แทนราษฎร หน่วยงานที่รับผิดชอบ (กระทรวงการคลัง) จะต้องนำเรื่องดังกล่าวมาหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน
ประเด็นดังกล่าว รมช.คลัง ยอมรับว่า…เป็นเรื่องปกติที่จะต้องนำหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่และเป็นเรื่องใหญ่ แม้การรับฟังเสียงของประชาชนหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับการตอบรับด้วยดี กระนั้น จำเป็นจะต้องพูดคุย หารือ รวมถึงเปิดให้มีการถกเถียงในมุมมองหรือประเด็นที่เห็นต่างออกไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกฎหมายดังกล่าว
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังจะต้องทำประชามติ เพื่อขอรับฟังความคิดเห็นของคนไทยส่วนใหญ่ก่อนดำเนินโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่? นายจุลพันธ์ ตอบว่า “ไม่จำเป็น”
“เราเองอยากเห็นร่างกฎหมายฉบับนี้นำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ภายในสิ้นปีนี้ เพียงแต่ในระหว่างนี้ ยังเป็นความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือนและอีสาน ทั้งนี้ หากโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะล่าช้าไปบ้าง ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะการช่วยเหลือชาวบ้านจากปัญหาภัยธรรมชาติถือเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า” รมช.คลัง ระบุ
ทั้งนี้ “เอ็นคอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ถือเป็นอีกนโยบายสำคัญในการที่จะดึงดูด “เม็ดเงินใหม่ๆ” เข้ามาเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทย และรัฐบาลเองก็คาดหวังให้เป็น “แลนด์มาร์กแห่งใหม่” ที่มุ่งเน้นการเป็นแหล่งบันเทิงและสันทนาการของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถจะต่อยอดในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประเทศ ผ่านการขับเคลื่อนของคณะกรรมการบริหารที่จะตั้งขึ้นมารับผิดชอบโดยเฉพาะ แม้เรื่องดังกล่าวจะได้ความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างชาติที่อยากจะเข้ามาลงทุน พร้อมกับเสนอแนะพื้นที่จัดตั้ง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะไม่กำหนดพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่จะให้คณะกรรมการบริหารฯ ทำงานร่วมกับหน่วยงานอิสระ และสถาบันการศึกษา เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ แผนลงทุน พื้นที่เหมาะสม ให้ครอบคลุมทุกด้าน โดยทำการโซนนิ่งพื้นที่ที่เหมาะสมและสอดรับกับความต้องการของคนในพื้นที่ เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นๆ ต่อไป
ส่วนประเด็นที่ นายอนุทิน เดินทางเข้าพบเยี่ยมคารวะ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโอกาสที่เดินทางไปเข้าร่วม การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 8 โดยมีการพูดคุยร่วมกันในประเด็นที่ระบุว่า…ทางการไทยพร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชา เพื่อดึงเอาวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน หรือ “วัฒนธรรมร่วม” มาต่อยอดสร้างเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อหาประโยชน์ร่วมกัน ทั้งทางด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาพ นั้น นายจุลพันธ์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะ ประเด็นที่มีคนไทยหลายส่วนแสดงความไม่เห็นด้วย หากรัฐบาลไทยจะนำวัฒนธรรมไทยไปเป็น “วัฒนธรรมร่วม” กับกัมพูชา แต่ยอมรับว่า…การเดินทางไปพบ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นั้น นายอนุทินไปในนามรัฐบาลไทย.