ถก.พลังงานสีเขียว ในงาน Delta Future Industry Summit 2022

ก.พลังงาน บีโอไอ และผู้นำอุตสาหกรรมแถวหน้าของไทย จัดงาน Delta Future Industry Summit 2022 หารือพลังงานสีเขียวและดิจิทัลโซลูชันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานสัมมนา Delta Future Industry Summit 2022 ว่า กระทรวงพลังงานกำลังพัฒนาแผนพลังงานแห่งชาติปี 2565 ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตามเป้าหมายในการเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 โดยจะต้องคงไว้ซึ่งระดับราคาพลังงานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้และมีมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังร่วมมือกับผู้นำอุตสาหกรรมอย่างเดลต้า ในการพัฒนานวัตกรรมที่จะช่วยสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวหน้าทั้งด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

โดยร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชนในการคิดค้นโซลูชันและพัฒนาเทคโนโลยีที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบริการด้านพลังงานที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้บริการในประเทศ บทบาทสำคัญของเดลต้าในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curves) รวมถึงเป้าหมายในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) และโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนเป็นผู้บุกเบิกเรื่องโซลูชันสีเขียวสำหรับอาคารและโรงงาน ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ และเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน”

ด้าน นายแจ็คกี้ จาง ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดลต้าได้รับการยอมรับจากกระทรวงพลังงานให้เป็นต้นแบบด้านการปฏิบัติการโรงงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว (Leadership in Energy and Environmental Design: LEED) ถึง 2 แห่ง และมีโชว์รูมที่มีค่าทางคาร์บอนเป็นศูนย์ (net-zero) แห่งแรกในประเทศ อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก

และได้เปิดตัวเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า DC ความเร็วสูง ขนาดกำลังไฟสูง 200kW เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการในไทยที่มองหาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง และชาร์จได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ เดลต้าจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าร่วมกับพันธมิตรเพื่อนำเสนอโซลูชันเพื่อสร้างเศรษฐกิจสีเขียว ผ่านการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้งานระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (E-Mobility) และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์แห่งชาติประเทศไทย 4.0

อย่างไรก็ดี ภายในปี 2570 คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัลในไทยจะมีสัดส่วนมากถึง 25% ของ จีดีพีของประเทศ ซึ่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเศรษฐกิจดิจิทัลนั้น จำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านดาต้าเซ็นเตอร์และโทรคมนาคม 5G เข้ามารองรับการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Internet of Things (IoT), คลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing), ระบบโครงข่ายการเก็บบัญชีธุรกรรมออนไลน์ (Blockchain), และเทคโนโลยีแห่งโลกเสมือน (Metaverse)

เดลต้าจึงได้นำเสนอระบบเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีเสถียรภาพสูงตามมาตรฐานสากล พร้อมด้วยการออกแบบระบบที่สอดผสานกันอย่างลงตัวทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากที่ใดก็ได้ โดยได้ดึงความเชี่ยวชาญในการจัดการพลังงานและการพัฒนาระบายความร้อนเพื่อพัฒนาโซลูชันสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงานไฟฟ้าในดาตาเซ็นเตอร์ (Power Usage Effectiveness: PUE) ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการอีกด้วย

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password