สรรพากรดันไทยร่วมภาคีป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและการโยกย้ายกำไร

กรมสรรพากรรับลูก ครม. หลังไทยเข้าร่วมเป็นภาคีกรอบความร่วมมือของ OECD ที่มุ่งเน้นการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและการโยกย้ายกำไร ด้าน “ลวรณ แสงสนิท”  ระบุ! เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแลกเปลี่ยนรายงานข้อมูล CbCR สอดคล้องมาตรฐานสากล เชื่อ! ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมาก หนุนกลุ่มบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลข้ามชาติในไทย ยื่นรายงานข้อมูล CbCR ผ่านไทยได้

คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 อนุมัติหลักการในการเข้าร่วมเป็นภาคี ความตกลงพหุภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีอํานาจในการแลกเปลี่ยนรายงานข้อมูลรายประเทศ (Multilateral Competent Authority Agreement on the Exchange of Country-by-Country Reports: CbC MCAA) เพื่อยกระดับการแลกเปลี่ยนรายงานข้อมูลรายประเทศ (Country-by-Country Reports: CbCR) ให้เป็นมาตรฐานสากลตามแนวทางขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD)  โดยจะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ในปี 2566 เป็นต้นไป

ล่าสุ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก กรอบความร่วมมือของ OECD ที่มุ่งเน้นการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษีและการโยกย้ายกำไร (Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting) ตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันมีสมาชิก 141 ประเทศ โดยกรอบความร่วมมือดังกล่าวกำหนดให้การรายงานข้อมูล CbCR เป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่ประเทศสมาชิกจะต้องดำเนินการให้สอดคล้อง ตามมาตรฐานสากลที่กำหนด ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนรายงานข้อมูล CbCR แบบอัตโนมัติระหว่างประเทศสมาชิก

กรมสรรพากรจึงเตรียมการดำเนินการที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ตรากฎหมายกำหนดให้ผู้มีหน้าที่ แจ้งข้อความตามรายงานข้อมูล CbCR เริ่มแจ้งข้อมูล ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม  2564 เป็นต้นไป และกำหนดส่งข้อมูลครั้งแรกภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 นี้ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 408) และ กรมสรรพากรได้เตรียมการเพื่อเริ่มแลกเปลี่ยนรายงานข้อมูล CbCR โดยเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในการเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลง CbC MCAA ซึ่งเป็นความตกลงระหว่างประเทศ   แบบพหุภาคีที่กำหนดให้ประเทศภาคีแลกเปลี่ยนรายงานข้อมูล CbCR แบบอัตโนมัติเป็นรายปี ปัจจุบัน มีภาคี 92 ประเทศ สำหรับการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ประเทศไทยจะลงนามเข้าเป็นภาคีในความตกลง CbC MCAA และจะเริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศภาคีครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2566

“การเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลง CbC MCAA เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนรายงานข้อมูล CbCR ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมาก กล่าวคือ กลุ่มบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลข้ามชาติ (MNE Group) ที่มีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลลำดับสูงสุด อยู่ในประเทศไทยจะสามารถยื่นรายงานข้อมูล CbCR ผ่านประเทศไทยได้ นอกจากนี้ประเทศไทยจะได้รับรายงานข้อมูล CbCR จากประเทศภาคีที่เป็นที่ตั้งของ MNE Group และมีกิจการที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการ ช่วยส่งเสริมความโปร่งใส สร้างความเป็นธรรม และต่อต้านการหลีกเลี่ยงภาษีข้ามชาติ รวมถึงส่งเสริมขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศด้านการลงทุนระหว่างประเทศต่อไป อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password