ก.เกษตรเชื่อมหอค้าฯไทย-จีน มุ่งเพิ่มส่งออกสินค้าเกษตรไปแผ่นดินใหญ่
รมว.เกษตร บุกหอการค้าไทย-จีน หวังเชื่อมและหนุนการค้าระหว่างไทยและจีน ตั้งเป้าขยายการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมไทยไปตลาดแผ่นดินใหญ่ ด้านปธ.หอการค้าไทย-จีน มั่นใจสินค้าเกษตรของไทยมีอนาคตที่สดใสอีกมาก ผ่านเส้นทางรถไฟความเร็วสูงไทย-ลาว-จีน
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน และคณะกรรมการบริหาร ให้การต้อนรับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ในโอกาสที่เดินทางมาเยี่ยมเยือน พร้อมหารือเพื่อส่งเสริมมิตรภาพและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างประเทศไทยและจีน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา
ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน กล่าวขอบคุณการมาเยือนหอการค้าไทย-จีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมระบุว่า จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่ง ของไทยเป็นเวลา 9 ปี ติดต่อกัน ส่วนไทยเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 13 ของจีน และ อันดับ 3 ของจีนในอาเซียน
สำหรับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 นี้ การค้าระหว่างประเทศไทยและจีน มีมูลค่า 54,455 ล้าน
เหรียญสหรัฐ /ขยายตัว 9.37% / มีสัดส่วน 17.88% ของมูลค่าการค้ารวมของไทย โดยการส่งออกของไทยไปจีน ขยายตัว 0.8% แต่การนำเข้าจากจีนขยายตัว 14.36%
โดยการส่งออกหมวดสินค้าเกษตรกรรม ของไทยไปจีน ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน ในปีนี้ มีมูลค่า 6,069 ล้านเหรียญสหรัฐ/ ขยายตัว 11.50% / และ มีสัดส่วนถึง 32.89% ของมูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับจีน (แต่การส่งออกหมวดสินค้าเกษตรกรรมทั้งหมด มีสัดส่วนถึง 42.38% ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งหมดของประเทศไทย จึงกล่าวได้ว่าสินค้าเกษตรกรรมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย)สินค้าเกษตรกรรมของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลไม้สด เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย / ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง/ ยางพารา /ข้าว มีบทบาทสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศไทยและจีน และคาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรกรรม ดังกล่าว ยังมีโอกาสที่จะขยายได้อีกมาก หากสามารถเปิดบริการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟ ไทย-ลาว-จีน ได้โดยเร็ว
ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความพันธ์กับจีนมาอย่างต่อเนื่องและราบรื่น และยอมรับว่าสินค้าเกษตรของไทยส่งออกไปจีนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผลไม้ของไทย จึงต้องส่งเสริมให้เกษตรกร รักษาคุณภาพสินค้าเกษตรให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังต้องพยายามขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการกระจายสินค้าไปยังมณฑลต่างๆของจีน เนื่องจากอัตราการบริโภคของจีนยังมีอยู่สูง
“นอกจากนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร เพราะมูลค่าการเกษตรเพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นทางเลือกหนึ่งทางธุรกิจ ที่เน้นการส่งออกสินค้าเกษตร และแปรรูป ซึ่งยังมีอนาคตอีกไกล” ดร.เฉลิมชัย ย้ำ.