ธนารักษ์เคาะประมูลพัฒนา 3 เขตเศรษฐกิจพิเศษติดพม่า-ลาว! ตีกรอบทุนนอกหวั่นฮุบแผ่นดินไทย

กรมธนารักษ์เดินหน้าเปิดประมูลสรรหาผู้ลงทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก มุกดาหาร และหนองคาย ติดแผ่นดินเพื่อนบ้าน รวมพื้นที่เกือบ 3 พันไร่ มูลค่าเริ่มเคาะรวมกว่า 2 พันล้านบาท ตลอดสัญญาเช่า 50 ปี ไม่รวมค่าธรรมฯเข้าอีกกว่า 320 ล้านบาท เริ่มเปิดขายเอกสารลงทุน 23 พ.ค. – 17 มิ.ย.65 ด้าน “อธิบดีกรมธนารักษ์” ลั่น หากต่างชาติสนใจจะต้องร่วมคนไทยตั้ง Joint Venture หวั่นฮุบพื้นที่และกิจการในไทย ขณะที่ตัวแทนเอกชน เผย! รอบนี้ เงื่อนไขผ่อนปรนและจูงใจสูงมาก ทั้งวิธีการประมูล มาตรการภาษี โดยเฉพาะการผ่อนจ่ายค่าธรรมเนียมฯ

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2565 นี้ กรมฯจะเปิดทำการประมูลสรรหาผู้ลงทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก มุกดาหาร และหนองคาย หลังจากช่วงปีงบประมาณ 2559 – 2564 ได้ดำเนินการไปแล้วใน 5 จังหวัด คือ จัวหวัดสระแก้ว ตราด สงขลา กาญจนบุรี และนครพนม ซึ่งทั้งหมดจะสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตและกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นโดยเร็ว ซึ่งเคยมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 17/2558 สั่ง ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเพิกถอนที่ดินของรัฐประเภทอื่นให้ตกเป็นที่ราชพัสดุ ประกอบด้วย ตาก สระแก้ว ตราด มุกดาหาร และหนองคาย โดยมอบให้กรมธนารักษ์จัดให้หน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ หรือจัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือเอกชนเช่า เพื่อใช้เป็นพื้นที่พัฒนา

โดยในครั้งนี้ จะเปิดให้เอกชนซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยที่สนใจเข้าร่วมประมูลเพื่อเข้ามาบริหารพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของทั้ง 3 จังหวัด ทั้งนี้ หากกลุ่มทุนต่างประเทศสนใจจะเข้าร่วมประมูลจะต้องมีคุณสมบัติการเป็นกิจการร่วมค้า (Joint Venture) ซึ่งทั้งหมดจะต้องมีมูลค่าทุนจดทะเบียนรวมกันไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และมีผลงานหรือประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างน้อย 1 โครงการ โดยจะเริ่มเปิดจำหน่ายเอกสารการลงทุนระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม – 17 มิถุนายน 2565 ผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อเอกสารการลงทุน ณ กองบริหารที่ราชพัสดุภูมิภาค กรมธนารักษ์ โทร. 0 2298 5363 และกำหนดให้ผู้ซื้อเอกสารการลงทุนยื่นซองเสนอโครงการลงทุน ณ กรมธนารักษ์ ในวันที่ 6 กันยายน 2565

สำหรับรายละเอียดของแต่ละพื้นที่มีดังนี้  1. เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ตก.590 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เนื้อที่ประมาณ 1,076-1-90.70 ไร่ โดยกำหนดการเรียกเก็บผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตราไร่ละ 36,000 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 38,753,163 บาท (ปรับปรุงค่าเช่าร้อยละ 15 ทุก 5 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูลเป็นเงิน 269,119,188 บาท มีกำหนดระยะเวลา การเช่า 50 ปี

2. เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ มห.511 และ     มห. 512 ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่ประมาณ 1,081-0-23.10 ไร่ กำหนดผลประโยชน์ ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตราไร่ละ 1,800 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1,945,904 บาท (ปรับปรุงค่าเช่า ร้อยละ 9 ทุก 3 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูล เป็นเงิน 32,431,733 บาท มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 50 ปี 

และ 3. เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นค.1031ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เนื้อที่ประมาณ 718-0-46 ไร่ กำหนดผลประโยชน์ ตอบแทนเป็นค่าเช่าในอัตรา ไร่ละ 2,100 บาท/ปี คิดเป็นค่าเช่าปีละ 1,508,042 บาท (ปรับปรุงค่าเช่าร้อยละ 9 ทุก 3 ปี) และกำหนดค่าธรรมเนียมการประมูลเป็นเงิน 25,134,025 บาท มีกำหนดระยะเวลา การเช่า 50 ปี 

“ทั้ง 3 พื้นที่ที่จะเปิดประมูลเพื่อสรรหาผู้ลงทุนพัฒนาที่ดินราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ถือว่ามีความพร้อมอย่างมาก และทุกพื้นที่อยู่ใกล้เขตชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเอกชนที่ชนะการประมูล โดยเสนอผลตอบแทนและแผนงานในการพัฒนาโครงการที่ดีที่สุด สามารถจะเข้าดำเนินการได้ทันที รวมถึงนำไปดำเนินการให้เช่าช่วงตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดได้ โดยพื้นที่จังหวัดตาก ดูจะเหมาะสมต่อการพัฒนาในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมมากที่สุด” อธิบดีกรมธนารักษ์ ย้ำและว่า กรมฯจะเปิดโอกาสให้เอกชนทุกรายได้สอบถามและขอรับคำปรึกษาตลอดระยะเวลาที่ได้จัดทำแผนเพื่อยื่นเสนอโครงการ เพื่อป้องกันไม่ให้เอกชนทำผิดเงื่อนไขตั้งแต่ต้น

นายประภาศ ยืนยันว่า สถานการณ์ปัจจุบัน เหมาะสมอย่างมากหากจะทำการเปิดประมูลให้เอกชนได้เข้ามาพัฒนาที่ดินราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เริ่มคลี่คลายคง ขณะเดียวกัน การเปิดประเทศของรัฐบาล สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งผลดีต่อการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้  นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังมีแผนจะนำที่ราชพัสดุในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสกว่า 1,600 ไร่ ไปจัดทำเป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในโอกาสต่อไป

ตัวแทนเอกชนที่สนใจโครงการฯ

ด้าน ตัวแทนกลุ่มเอกชนทั้ง 8 ราย ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้ พูดในทำนองเดียวกันว่า เงื่อนไขในการเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาพัฒนาที่ดินราชพัสดุในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในครั้งนี้ ถือว่าผ่อนปรนมากกว่าครั้งก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขการเข้าประมูล มาตรการทางภาษี รวมถึงการแบ่งจ่ายชำระค่าธรรมเนียม จากเดิมที่เมื่อชนะการประมูลจะต้องจ่ายเป็นเงินก้อนเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้ ได้สร้างความน่าสนใจอย่างมากต่อการจะเข้าร่วมแข่งขันในการเสนอแผนงานและผลตอบแทนรายได้ให้รัฐอย่างที่สุด.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password