ผบ.ตร.ชี้! เอาจริงโกงสอบเข้าตำรวจ ลั่น! ขอลงคุมคดีจีนเทา ไม่มีมวยล้มแน่!
ผบ.ตร.ตอบชัด ทั้งปมจัดการปัญหาภายในวงการสีกากี พร้อมเอาจริงโกงข้อสอบและสาวลึกถึงนายตำรวจที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ระบุ! จ่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ด้านคดีทุนจีนสีเทา ลั่น! ไม่มีรายการมวยล้มต้มคนดูแน่ พร้อมลงมากำกับคดีด้วยตัวเอง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยกรณีมี กระแสข่าวการทุจริตสอบเข้านักเรียนนายสิบ บช.ภ.9 รุ่น 2 เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมาว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะฯ เพื่อให้การสืบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และโปร่งใสที่สุดโดยก่อนหน้านี่ โดยตนได้รับรายงานจากกองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) กรณีมีการร้องเรียนเรื่องทุจริตการสอบฯ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยหลังการสอบเสร็จสิ้น ได้มีการแจ้งเบาะแสในวันรุ่งขึ้น ซึ่ง บช.ศ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลประกอบการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะกรณีโพยคำตอบพบว่ามีการเฉลยตรงกับปัญหาข้อสอบในหลายข้อ แต่ในชั้นนี้กำลังตรวจสอบว่าถูกนำมาใช้ขณะเข้าสอบ หรือเป็นการทำขึ้นภายหลังการสอบเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งทาง บช.ศ.ได้แต่งตั้งคณะทำงานมาทำการสืบสวนตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนความคืบหน้าของการทุจริตการสอบเข้ารับราชการนักเรียนนายสิบตำรวจ รุ่นที่ 2 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 เหตุเกิดเมื่อเดือนมีนาคม 2565 และมีข้าราชการตำรวจที่อาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการทุจริตในการสอบครั้งนั้น สตช.ได้ตรวจสอบความคืบหน้ากรณีดังกล่าวกับตำรวจภูธรภาค 9 มีความคืบหน้า โดยได้ทำการคัดกรองและตัดสิทธิ์ผู้ทุจริตการสอบทั้งหมดรวม 73 คน ออกจากกระบวนการคัดเลือกแล้ว สำหรับกรณีที่ตรวจพบการทุจริตในห้องสอบ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้เข้าสอบที่ปรากฏหลักฐานการทุจริตในการสอบกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาไว้แล้ว ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน
ทั้งนี้ กรณีข้าราชการตำรวจ ยศ ร.ต.อ.หญิง รายหนึ่ง ที่พบว่ามียอดเงินเข้ามาในบัญชีจำนวนมาก และอาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตในการสอบนั้น ทางตำรวจภูธรภาค 9 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว หากผลการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ผลเป็นประการใด จะนำเรียนให้ทราบโดยเร็วต่อไป
ส่วนกรณี “ทุนจีนสีเทา” ที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แสดงความกังวัลใจว่าอาจมีการช่วยเหลือผู้ต้องหานั้น ตนยืนยันว่า อาจเป็นการเข้าใจผิด ทั้งนี้ การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และย้ำว่า เรื่องนี้ ตนจะมากำกับดูแลใกล้ชิดด้วยตนเอง เพื่อจะได้ตัดปัญหาความคลางแคลงใจในเรื่องนี้ต่อไป พร้อมกับในความนใจว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน.