นายกฯชี้! คอร์รัปชั่นจุดอ่อนไทย ชวนทุกฝ่ายร่วมขจัดกลโกงตั้งแต่ระดับนโยบายลงมา   

นายกฯประยุทธ์ ยอมรับ “คอร์รัปชั่น” คือจุดอ่อนและเป็นภัยร้ายแรงของชาติ ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล พร้อมประสานความร่วมมือกับองค์กรตรวจสอบโกง ย้ำ! พร้อมป้องกันทุจริตเชิงนโยบาย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่าง เป็น ประธานการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต ในงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย)  ว่า องค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล เพื่อให้ประชาคมโลกตระหนักถึงภัยร้ายแรงจากการทุจริต และเพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ประเทศไทยในฐานะประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ ให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบตลอดมา รัฐบาลร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้งกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ภาคประชาสังคมและภาคีเครือข่าย จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชันสากลขึ้น เพื่อร่วมกันแสดงจุดยืนพร้อม ๆ กับคนไทยทุกภาคส่วน ที่จะ “ไม่ทำ ไม่ทน และไม่เพิกเฉย” ต่อการทุจริตอีกต่อไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในวันนี้ แต่จะต้องอยู่ในจิตใต้สำนึกของคนไทย ทุกคน ในทุกๆ วัน

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ปัญหาคอร์รัปชันส่งผลเสียหายต่อประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ซึ่งองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) สะท้อนปัญหาการทุจริตว่าเป็นจุดอ่อนของประเทศไทย โดยเฉพาะ ปัญหาการซื้อขายตำแหน่ง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกรับสินบน การใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน การไม่สามารถแยกแยะผลประโยชน์ส่วนรวมกับประโยชน์ส่วนตน และความไม่โปร่งใสในการใช้งบประมาณ ดังนั้น การทุจริตจึงเป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง ทั้งในการบริหารจัดการภาครัฐ การพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการพัฒนาประเทศ ที่สำคัญคือการทำลายภาพลักษณ์ ทำลายความเชื่อมมั่นในสายตาประชาชนชาวไทยและชาวโลก ซึ่งเราต้องไม่ยอมให้การทุจริตเป็นมรดกบาป ตกทอดสู่รุ่นลูก รุ่นหลานอีกต่อไป

“รัฐบาลให้ความสำคัญและผลักดันให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ สร้างกลไกการแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้บรรจุแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ ลงไปถึงการจัดทำแผนระดับรอง เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง” พล.อ. ประยุทธ์ ระบุ และว่า จากนี้ไป รัฐบาลจะขจัดปัญหาการทุจริตให้หมดสิ้นไป โดยพร้อมจะทำงานกับทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด เปิดกว้างรับฟัง เสริมสร้างความเข้มแข็ง และคงความเป็นอิสระของหน่วยงานตรวจสอบ เพื่อให้โครงการพัฒนาประเทศ การค้า การลงทุน การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในสังคมสามารถดำเนินไปได้อย่างเต็มศักยภาพ

ทั้งนี่ การทุจริตจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าทุกคนมีจิตใจคุณธรรม ไม่เห็นประโยชน์จากการทุจริต ที่สำคัญเมื่อเป็นใหญ่เป็นโต ต้องมีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ตามวัยวุฒิ คุณวุฒิที่เติบโต ถ้าประชาชน สังคมช่วยกันเฝ้าระวัง ช่วยกันแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษ สิ่งเหล่านี้จะหายไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password