ดีเอสไอขยายผลคดียาเสพติดแก๊งต่างชาติ ล่าสุด ตรวจยึดเพนต์เฮาส์ จุลดิศทาวเวอร์ ย่านประตูน้ำ รวมกับทรัพย์สินอื่นมูลค่ากว่า 125 ล้านบาท ฐานเป็นทรัพย์สินเครือข่ายยานรก   

การขยายผลกวาดล้างเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศไทย ที่หน่วยงานภาครัฐได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและลงลึก ถูกสั่งการมาจากหน่วยเหนือ อันเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาล ล่าสุด เมื่อบ่ายวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา นายพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 33/2564 กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบ (ดีเอสไอ) นำหมายค้นของศาลอาญาเข้าค้นห้องชุดในอาคารจุลดิศทาวเวอร์ เลขที่ 21 ซอยเพชรบุรี 19 ถนนเพชรบุรี แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร และทำการยึดสิ่งของที่เชื่อว่าเป็นของผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ตั้งแต่ปี 2557 แต่ยังคงมีความเคลื่อนไหวในการยักย้ายเงินและทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดบางส่วนที่ยังไม่ได้ถูกตรวจยึดออกไปนอกราชอาณาจักร โดยดีเอสไอเชื่อว่า ยังมีทรัพย์สินซุกซ่อนอยู่กับผู้ถือครองแทน ที่เป็นเครือข่ายของขบวนการดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ผลการตรวจค้นพบทรัพย์สินของผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งเป็นชายชาวต่างชาติ ที่ต้องโทษประหารชีวิตและต้องขังอยู่ในเรือนจำในขณะนี้ ในเพนต์เฮาส์ 2 ชั้น มูลค่ากว่า 25 ล้านบาทนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ตามมาตรการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดต่อไป

อนึ่ง ในการดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบออกกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติม ให้การกระทำความผิดเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เป็นคดีพิเศษ มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบ และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนงานดังกล่าว นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์คดียาเสพติด มีหน้าที่เพื่อป้องกัน ปราบปราม สืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมีฐานะเทียบเท่ากอง ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามกรอบแนวทางการขับเคลื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ปีงบประมาณ 2566 ที่กำหนดในด้านการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินในความผิดฐานฟอกเงิน ยึดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรการกระทำผิด โดยเฉพาะคดียาเสพติด.