ตำรวจไทยรุกกวาดล้างแก๊งอาชญากรรรม ทั้งคดีค้างเก่าและคดีใหม่ทั่วไทย ผบ.ตร. เผย! แค่ไม่ถึงเดือน จัดการไปแล้วทั้งคดียาเสพติดและอาวุธปืนรวมกว่า 6 หมื่นราย มั่นใจสร้างความเชื่อมั่นให้กัน “ผู้นำเอเปค” ก่อนเข้าร่วมประชุมในไทย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. แถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนานาชาติ และประชาชน ก่อนการประชุม APEC 2022 โดยระบุว่า ระหว่างวันที่ 10 ต.ค.- 8 พ.ย.65 ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ระดมกวาดล้างปราบปรามผู้กระทำความผิดที่ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนเถื่อน อาวุธปืนสงคราม ยาเสพติด และหมายจับค้างเก่า ก่อนที่จะมีการจัดการประชุมผู้นำ APEC ปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้

1.ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด และเครื่องกระสุน รวม 11,811 คดี มีผู้ต้องหา 10,450 คน ของกลางอาวุธปืนสงคราม 36 กระบอก ปืนไม่มีทะเบียน 5,345 กระบอก มีทะเบียน 936 กระบอก วัตถุระเบิด 4,342 รายการ และเครื่องกระสุน 37,045 นัด

2.ผู้ต้องหาคดียาเสพติด 41,803 คดี ผู้ต้องหา 43,027 คน ของกลางยาบ้า 49,580,083 เม็ด

3.จับบุคคลตามหมายจับคดีอาญา ได้ 9,465 หมายจับ ผู้ต้องหา 9,255 คน

ทางด้านงานสืบสวนสอบสวน นั้น เจ้าหน้าที่ได้ระดมเร่งรัดหมายจับค้างเก่าทั่วประเทศ โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมหมายจับค้างเก่าไปแล้วกว่า 50% ส่วนด้านการป้องกันปราบปราม มีการระดมจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับอาวุธปืนและยาเสพติด ขณะนี้มีการขยายผลต่อเนื่องไปถึงต้นทางการผลิต โดยจะได้ปราบปรามอย่างครบถ้วนทุกมิติ

สำหรับคดีที่น่าสนใจ อาทิ การปราบปรามของ ภ.5 ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายอุปกรณ์ปืน บีบีกัน แบลงค์กัน และผลิตแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน ใส่ลำกล้องปืน 9 มม. ให้เป็นอาวุธปืนที่สามารถยิงกระสุนจริงได้ โดยเปิดร้านชื่อ CHAROEN AIRSOFT 4289 ผ่านแพลตฟอร์มลาซาด้า โดยมีช่องทางติดต่อผ่านไลน์ Line Official “@612mrgnd” และใน Facebook เพจของ CHAROEN AIRSOFT 4289 โดยผู้ต้องหาเริ่มทำลำกล้องปืนด้วยตนเองและจำหน่ายทางออนไลน์ให้ผู้สนใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ทำและจำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในการแก้ไขปัญหาอาวุธปืนและยาเสพติดที่เป็นรูปธรรม โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน จึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ซึ่งมีผลการปฏิบัติเป็นที่น่าพอใจ” ผบ.ตร. ย้ำ และว่า

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งข้อมูล เบาะแส แจ้งข่าวอาชญากรรม ให้ตำรวจได้ตลอดเวลา ทางหมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 โดยทุกข้อมูลจะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง.