รัฐชวนนักเที่ยว “เราเที่ยวด้วยกัน” ให้ปากคำสยบขบวนการโกงเงินแผ่นดิน

รองโฆษกรัฐบาล วอนผู้ใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ให้ปากคำในฐานะ “พยานปากเอก” หลังพบปมทุจริตเจ้าของโรงแรมที่พัก กระทั่งดำเนินคดีไปแล้วกว่า 320 คดี ยืนยันรัฐบาลมีนโยบายปราบโกง และการให้ปากคำไปซัดรวมคดีอื่นๆ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพบความผิดปกติในการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกันช่วงวันที่ 1 ก.ย. 64 – 1 ม.ค. 65 และได้ดำเนินคดีอาญากับผู้ทุจริตไปแล้ว 323 คดี ว่า ในการเอาผิดกับผู้ทุจริตนั้น อาจต้องขอข้อมูลจากผู้ใช้สิทธิโครงการเป็นพยานในคดี หากโรงแรมหรือที่พักที่เข้าไปใช้สิทธินั้นมีการทุจริต โดยประชาชนที่ได้รับหมายเรียกให้ไปเป็นพยานในคดีทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่อาจอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากสถานีตำรวจภูธรเจ้าของคดี เช่น ต้องเดินทางข้ามจังหวัด ก็ขอให้ประชาชนรีบติดต่อสถานีตำรวจตามหมายเรียก เพื่อขอคำแนะนำและแจ้งถึงปัญหาการเดินทางในการไปเป็นพยานในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน พร้อมกับขอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธร หรือสถานีตำรวจนครบาลในพื้นที่ที่ตนเองพักอาศัยอยู่ จากนั้นสถานีตำรวจที่ท่านให้ปากคำ จะรวบรวมข้อมูลส่งไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งต่อไปยังสถานีตำรวจเจ้าของคดีนั้นๆ ต่อไป

โดยรัฐบาลมีนโยบายในการปราบปรามการทุจริตโครงการรัฐ พร้อมเปิดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ โดยได้ดำเนินการอย่างจริงจังและเข้มข้น เพื่อไม่ให้เม็ดเงินงบประมาณของประเทศเกิดการรั่วไหล ขณะเดียวกันก็มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจะได้รับผลกระทบ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจ ให้รีบติดต่อสถานีตำรวจเจ้าของคดีก่อนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อไม่ให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเป็นพยาน สำหรับคดีทุจริตโครงการเที่ยวด้วยกันคดีเดียวเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับคดีอื่นๆ

“ประชาชนได้ให้ความสนใจโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนต่อขยาย ผ่านการลงทะเบียนจองโรงแรม-ที่พักจำนวนสิทธิ 1.5 ล้านสิทธิ โดยมียอดผู้ลงทะเบียนจองสิทธิที่พัก-โรงแรม เต็ม 1.5 ล้านสิทธิแล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา สะท้อนศักยภาพของโครงการที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน ผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยผลสำรวจของสมาคมโรงแรมไทย ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า อัตราการเข้าพักเดือนสิงหาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 48% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่โรงแรมที่มีรายได้กลับมาเกิน 50% มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากกลุ่มโรงแรมมากกว่า 4 ดาวเป็นหลัก” น.ส.ทิพานัน ระบุ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password