“บ้านปู” จัด “บิสซิเนส พิชชิ่ง” เชื่อมผู้ประกอบและนักลงทุน

บ้านปู ร่วมกับ สถาบัน ChangeFusion จัดกิจกรรมการเชื่อมโยงผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) ศักยภาพสูงกับเครือข่ายนักลงทุน-พันธมิตรทางธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริม SE กว่า 20 ราย เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงองค์ความรู้และแหล่งเงินทุนเพื่อการเติบโตขึ้นอีกขั้น พร้อมเสริมแกร่ง SE Ecosystem ไทยสู่การสร้างพลังเปลี่ยนแปลงสังคมที่ยั่งยืน

นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส – สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการคัดเลือก 6 กิจการที่ผ่านเข้ารอบเพื่อเข้ารับคำปรึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของกิจการจากทีมผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่ตอบโจทย์กับประเด็นของกิจการต่าง ๆ รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคในแบบที่จำเพาะเหมาะสมกับแต่ละกิจการ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นหนึ่งภายใต้ Acceleration Program ที่ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SE ทั้ง 6 กิจการและผู้ลงทุนได้ทำความรู้จัก และเชื่อมโยงกันซึ่งผลที่เกิดขึ้นอาจจะหมายถึงโอกาสในการเติบโตในธุรกิจทั้งของผู้ลงทุนและผู้ประกอบการ SE เอง

สำหรับกิจการเพื่อสังคมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ มีจำนวนทั้งสิ้น 6 กิจการ ประกอบด้วย ‘อาชีฟ’ (a-chieve) แพลตฟอร์มแนะเส้นทางอาชีพเด็กไทย ‘ยังแฮปปี้’ (YoungHappy) แอปพลิเคชันสร้างสุขของวัยเกษียณ ‘บั๊ดดี้โฮมแคร์’ (Buddy Homecare) แอปพลิเคชันอาสาสมัครดูแลสูงวัย ‘อูก้า’ (OOCA) แพลตฟอร์มให้คำปรึกษาสุขภาพจิต ‘โนบูโร’ (Noburo) แพลตฟอร์มสวัสดิการแก้หนี้พนักงาน และ ‘มอร์ลูป’ (moreloop) แพลตฟอร์มฝากขายผ้าส่วนเกินจากอุตสาหกรรมแฟชั่น ทั้งนี้ ผลลัพธ์จากการเพิ่มระดับความเข้มข้นของโครงการฯ ด้วย Acceleration Program ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการเพื่อสังคม

นายอมรพล หุวะนันทน์ ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มฝากขายผ้าส่วนเกินจากอุตสาหกรรมแฟชั่น ‘มอร์ลูป’ (moreloop) กล่าวว่า “รู้สึกภาคภูมิใจที่โปรแกรม Acceleration ของบ้านปู รวมถึงนักลงทุนมองเห็นถึงศักยภาพของ moreloop ที่ตรงกับเงื่อนไขกิจกรรมเพื่อเข้าร่วมบ่มเพาะธุรกิจให้เติบโตได้อีกขั้น ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจ ตนมีแผนขยายทีมทำงาน และปรับปรุงระบบการทำงานให้สามารถรองรับการทำการตลาดเชิงรุก โดยเน้นการจัดจำหน่ายผ้าส่วนเกิน และรับจ้างผลิต (OEM) เพิ่มมากขึ้น การจัดกิจกรรม Business Pitching ของบ้านปู ถือเป็นอีกหนึ่งสนามสำคัญที่ช่วยในการฝึกฝนทักษะการนำเสนอแผนธุรกิจของผู้ประกอบการ สร้างคอนเนคชันที่ดีระหว่างผู้ประกอบการกับนักลงทุน และ ระหว่างนักลงทุนกับนักลงทุนด้วยกัน หรือกระทั่งนักลงทุนบางรายยังได้ทำความรู้จักกับกิจการ SE อื่นๆ ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับ SE Ecosystem ไทยให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น”

ด้าน นางสาวไพลิน สันติชัยเวคิน ผู้จัดการฝ่ายลงทุน กองทุน Disrupt Impact Fund กล่าวว่า “สำหรับปัจจัยที่ทำให้เลือกลงทุนกับกิจการเพื่อสังคมมี 3 ปัจจัยหลักคือ 1. กิจการมีศักยภาพในการเติบโตทางธุรกิจและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้ควบคู่กันในขนาดตลาดที่ใหญ่ (Scalable & Sustainable Growth) 2. ผู้นำองค์กร (Founder) มีพลังขับเคลื่อน และวิสัยทัศน์ในการขยายผลในวงกว้าง 3. กิจการมีข้อมูล (Traction) ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถแก้ไขปัญหาของกลุ่มเป้าหมายได้จริง และขยายผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากการเข้าร่วมกิจกรรม Business Pitching ทำให้มองเห็นโอกาสของธุรกิจใหม่ๆ ที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ เราเชื่อว่า ธุรกิจที่สร้างการเติบโตทางสังคม (Social Impact) และ สามารถเติบโตทางเศรษฐกิจได้ (Business Capability) จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะสามารถเลี้ยงตัวเอง และขยาย Impact ได้ในวงกว้าง”

นอกจากนี้ บ้านปู พร้อมด้วยสถาบัน ChangeFusion เตรียมจัดงาน “อิมแพ็ค เดย์” (Impact Day) ภายใต้แนวคิด “Impact Day 2022: Maximize the Impact ผนึกเครือข่าย ขยายพลัง SE” เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์การดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม ตลอดจนส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม นำโดยผู้เชี่ยวชาญการตลาด นักลงทุน และผู้ประกอบการธุรกิจ ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ศูนย์การค้าสามย่าน มิตรทาวน์ กรุงเทพฯ

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password