ราคาพุ่งพรวด!หลัง”สหรัฐฯ-อังกฤษ”ห้ามนำเข้า”น้ำมันดิบ”จากรัสเซีย

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง สหรัฐฯและอังกฤษ ประกาศกร้าว สั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบปรับเพิ่ม

วันที่ 9 มี.ค. 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส และ เบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น หลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศกร้าว สั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบและพลังงานอื่นๆ จากรัสเซีย เช่นเดียวกับ อังกฤษ ประกาศจะยุติการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ภายในสิ้นปี 2565

ขณะที่ Goldman Sachs คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2022 และ 2023 มีแนวโน้มดีดตัวขึ้นถึง 135 และ 115 ดอลลาห์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลตามลำดับ จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังยืดเยื้อ อาจทำให้เกิดวิกฤติพลังงานขาดแคลนระดับโลก

ทั้งนี้ หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 4 มี.ค. 65 ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซิน คงคลังปรับลดลงที่ 2.0 ล้านบาร์เรล สำหรับปริมาณน้ำมันดีเซล คงคลังปรับลดลงที่ 5.5 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ทางฝั่งเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการกักตุนสต็อกน้ำมันเบนซินก่อนเข้าช่วงเดือน รอมฎอนและกิจกรรมการขับขี่ที่หนาแน่นในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจากที่ตะวันตกประกาศยังไม่มีการสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบรวมถึงน้ำมันดีเซลจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในออสเตรเลีย หลังจากมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password