ครม.หนุนสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทยเฟส 2 วงเงิน 5 หมื่นล. สั่งขยายวัตถุประสงค์กว้างขึ้น

ครม.รับลูกกระทรวงการคลัง ผลักดันโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย (ระยะที่ 2) พร้อมวงเงินก้อนใหม่ 5 หมื่นล้านบาท โดยขยายขอบเขตของวัตถุประสงค์การดำเนินงานและเป้าหมายสนับสนุนสินเชื่อ คาดหนุนเศรษฐกิจฐานรากได้ทั้งระบบแน่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย (ระยะที่ 2) ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องจากแนวทางเดิมของโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงินสินเชื่อรวม 50,000 ล้านบาท โดยได้เพิ่มเติมขอบเขตวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายการสนับสนุนสินเชื่อ โดยมีรายละเอียดโครงการ ดังนี้

1. วัตถุประสงค์ เพื่อสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อสร้างแรงจูงใจในการปรับ เปลี่ยน พัฒนา การใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมในห่วงโซ่การผลิต หรือดำเนินการตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Model) ภายใต้แนวทางเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงโครงการพัฒนาการบริหารจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพการผลิต

2. กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เกษตรกร บุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สถาบันการเงินประชาชน สถาบันการเงินชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม และผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร รวมถึงลูกค้า Smart Farmer ชุมชนที่อยู่ระหว่างกระบวนการพัฒนาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกลุ่มผู้ใช้น้ำที่พัฒนาเป็นกลุ่มผู้ผลิตตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างยั่งยืนภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

3. ระยะเวลาดำเนินโครงการ ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอรับการสนับสนุนสินเชื่อได้ที่ ธ.ก.ส. ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568

4. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ธ.ก.ส. คิดดอกเบี้ยจากผู้กู้ในอัตราร้อยละ 0.01 ต่อปี ระยะเวลา 3 ปีแรกนับแต่วันกู้ โดยรัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 3.50 ต่อปี ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปคิดอัตราดอกเบี้ยตามเกณฑ์ปกติของ ธ.ก.ส.

“ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่า การดำเนินโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย (ระยะที่ 2) ดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตลอดจนธุรกิจตลอดห่วงโซ่สินค้าเกษตร ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในห่วงโซ่การผลิตสินค้าเกษตร และส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ ภายในชุมชน อย่างเกื้อกูล แบ่งปัน เป็นธรรม อันจะช่วยยกระดับรายได้เศรษฐกิจและชุมชนได้อย่างมั่นคงยั่งยืน” นายอาคม ระบุ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password