ศูนย์วิจัยฯไทยพาณิชย์ ฟันธงศก.ไทยฟื้นต่อเนื่อง จากการบริโภคและบริการในประเทศหนุน

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ แม้เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยกดดัน คาดว่าไตรมาส2 เสรษฐกิจจะขยายตัว 2.5% จากการบริโภคในประเทศ

วันที่ 22 ส.ค.2565 ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (Economic Intelligence Center : EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัวลง และ หลายตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจสะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แม้การจ้างงานยังอยู่ในระดับดี ขณะที่ความเสี่ยงด้านอุปทานพลังงานในยุโรป จากการลดปริมาณการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียและภาวะเงินเฟ้ออาจส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปหดตัวในไตรมาส 3 ของปีนี้ ท่ามกลางความเชื่อมั่นผู้บริโภคทั่วโลกที่ปรับลดลงตามเงินเฟ้อที่เร่งตัว ซึ่งลดทอนอำนาจซื้อ และการตึงตัวของนโยบายการเงิน ด้านปัญหาการชะงักงันของอุปทานโลกแม้เริ่มคลี่คลาย

แต่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก โดยเฉพาะท่าทีที่แข็งกร้าวระหว่างจีนและสหรัฐฯ ต่อกรณีไต้หวัน ยังตอกย้ำแนวโน้มของการแบ่งแยกอุปทานโลก ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องในโลกหลังโควิด ความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น กอปรกับแนวโน้มเงินเฟ้อที่อาจผ่านพ้นจุดสูงสุดในไตรมาสที่ 3 และจะเริ่มชะลอตัวตามราคาพลังงานและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงทั้งในภาคการผลิตตามการชะลอตัวของอุปสงค์โลก และภาคบริการตามแรงส่งของอุปสงค์คงค้างที่ทยอยหมดลงและปัจจัยทางฤดูกาล จะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่ช้าลงทำให้ความผันผวนในตลาดเงินโลกลดลงและผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัว

เศรษฐกิจไทยมีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ แม้เงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยกดดันและจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของครัวเรือน เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2ขยายตัวได้ 2.5% จากการเร่งตัวของการบริโภคในประเทศ การฟื้นตัวของภาคบริการโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและการค้าส่งและค้าปลีก และรายได้ในภาคเกษตรที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะส่งผลให้ภาคท่องเที่ยวและภาคบริการกลายเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญมากขึ้น โดย EIC ประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยปีนี้แตะ 10 ล้านคน (เดิม 7.4 ล้านคน) และปีหน้าอาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ใกล้เคียงระดับ 28 ล้านคน ตามแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นมากหากรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการด้านพรมแดน

ด้านการบริโภคมีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาใกล้เคียงปกติ แต่ยังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง (7.6% ในเดือนกรกฎาคม)โดยเริ่มเห็นการเร่งตัวของราคาสินค้าทั่วไป จากการส่งผ่านต้นทุนของภาคธุรกิจไปยังผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าจ้างขั้นต่ำมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนแรงงานในภาคธุรกิจและการปรับขึ้นของราคาสินค้า จากผลสำรวจของ EIC (EIC Consumer Survey 2565) พบว่าครัวเรือนส่วนใหญ่มีปัญหารายได้ไม่พอรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ และกว่าครึ่งหนึ่งมีปัญหาด้านการชำระหนี้ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น

EIC คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะทยอยขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งของปีนี้ โดยดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปีจะอยู่ที่ 1.25% จากสถานการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มใกล้ผ่านจุดสูงสุด เงินบาทที่กลับมาแข็งค่า ภาวะเศรษฐกิจในกลุ่มเปราะบางที่ยังฟื้นตัวช้า EIC ประเมินว่า กนง. เล็งเห็นความจำเป็นต้องเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อคาดการณ์ให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย และเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนขี้น อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะค่อยเป็นค่อยไป โดยปรับขึ้นรอบละ 0.25% ในการประชุม 2 รอบที่เหลือของปี เพื่อประคองสถานะทางเศรษฐกิจในกลุ่มเปราะบางไม่ให้ได้รับผลกระทบซ้ำซ้อนทั้งจากเงินเฟ้อ และภาระหนี้ที่จะเพิ่มขึ้นรวมถึงโอกาสทางรายได้ที่อาจถูกกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password