FTI Poll ชี้ ภาคเอกชน กังวลเงินเฟ้อ วอนรัฐตรึงดีเซล

FTI Poll ชี้ ภาคเอกชน กังวลภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น วอนรัฐลดภาษีบางรายการที่จำเป็น ตรึงดีเซลอีก 3 – 6 เดือน

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 17 ในเดือนพฤษภาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ “เงินเฟ้อกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่า ราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจากผลกระทบของวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน และปัญหา Supply chain disruption เป็นปัจจัยหลักที่เร่งให้ภาวะเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทั้งจากราคาวัตถุดิบและพลังงาน รวมทั้ง ยังกดดันกำลังซื้อภาคครัวเรือนให้ลดลงอีกด้วย โดยผู้บริหาร ส.อ.ท. คาดว่าตลอดทั้งปี 2565 อัตราเงินเฟ้อของไทยจะอยู่ที่ระดับ 4 – 5%

ดังนั้น จึงเสนอขอให้ภาครัฐเร่งพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้ง ปรับลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็นต่อภาคการผลิต เช่น วัตถุอาหารสัตว์ ปุ๋ย เป็นต้น และตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร ต่อเนื่องไปอีก 3 – 6 เดือน เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการและประชาชน นอกจากนี้ หากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ทวีความรุนแรงมากขึ้น และเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจากยุโรปและสหรัฐ อาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวสูงขึ้นอีก จนทำให้เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือ Recession ได้

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password