วงถกค้านธง กมธ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ชี้เพิ่มช่องโกง-ฟอกเงิน

เวทีร่วมหลายฝ่ายแฉรายงาน กมธ.วิสามัญศึกษาเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ สภาผู้แทนฯขาดความรอบด้าน ไม่มีผลกระทบด้านสังคมตั้งธงจะเปิดคาสิโน ด้าน “วิชา มหาคุณ”  ชี้! จะเป็นแหล่งฟอกเงินทุจริต กฎหมายก็ยังไม่พร้อม  ส่วน “เกียรติ  สิทธีอมร” ตั้งคำถามตั้งแล้วคนบางกลุ่มจะมั่งคั่งมากขึ้น หลายประเทศอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ซ้ำการพนันใต้ดินก็ยังคงอยู่

มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน, มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) และ โครงการเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงทางสังคม จัดประชุมเสวนาระดมความคิดเห็นจากสื่อมวลชนและผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่อง “เจาะรายงานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ 60 กมธ. ..คุ้ม ค่าจริงหรือ ?”  เมื่อวันจันทร์ที่ 8  สิงหาคม  2565   ณ โรงแรมแกรนด์  ฟอร์จูน กรุงเทพ รัชดา   โดยมี นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า จากการศึกษารายงานของ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจคาสิโนถูกกฎหมายและมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีกรรมาธิการจำนวนมากถึง 60 คน โดยมีข้อสังเกต 4 ประเด็นคือ 

ธนากร คมกฤส

หนึ่ง…เหมือนมีการตั้งธงที่จะเปิดกาสิโนเพราะชื่อของคณะกรรมาธิการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ก็ชัดเจนในเจตนาอยู่แล้วไม่ใช่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ดูได้จากรายงานกว่า 90 เปอร์เซนต์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการเปิดกาสิโน  มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พูดถึงเอ็นเตอเทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สอง…เป็นเรื่องอันตราย เพราะได้เสนอชัดเจนให้รัฐบาลหารายได้จากการทำให้พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย  จริงอยู่ว่าสื่อออนไลน์มีส่วนในชีวิตของผู้คนสมัยนี้มาก แต่การเสนอให้พนันออนไลน์ถูกกฎหมายมีอันตรายมาก ประเทศส่วนใหญ่ที่ให้การพนันถูกกฎหมาย จะไม่อนุญาตพนันออนไลน์  ในย่านอาเซียนมีเพียงฟิลิปปินส์ประเทศเดียวเท่านั้นซึ่งถูกประเทศจีนกดดันให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ปิดเว็บพนันออนไลน์ 

สาม…เป็นการปลดล็อค เพราะข้อเสนอของกรรมาธิการมีข้อน่าสงสัยว่าจะนำไปสู่การปลดล็อคให้สามารถตั้งกาสิโนได้เสรี ใช่หรือไม่ มีบางข้อที่กล่าวถึงการลงทุนกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กที่ใช้เงินไม่มากเท่าขนาดใหญ่ให้ตั้งได้ในท้องถิ่นต่าง ๆ ทั่วประเทศ และ สี่…คือดูเบาในเรื่องผลกระทบ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนในการทำงานมาตั้งแต่ต้นที่ตั้งอนุกรรมาธิการแค่ 4 คณะ ไม่มีคณะที่ศึกษาผลกระทบทางสังคม แต่นำเรื่องนี้ไปรวมการศึกษาเรื่องพื้นที่เป็นไปได้และหลักเกณฑ์เงื่อนไขการเปิด  โดยภาพรวมรายงานนี้เป็นการศึกษาเพียงด้านเดียวจะเปิดให้ได้ตามธงที่ตั้งไว้ ขาดความรอบด้านถึงผลดีผลเสียทำการบ้านได้ไม่ครบยังไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจว่าสังคมไทยควรมีกาสิโนถูกกฎหมายได้แล้ว   

วิชา มหาคุณ

ด้าน ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ อดีตประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา กล่าวว่า การคิดจะให้มี Entertainment Complex และการเปิดเสรีการพนันจำเป็นต้องหารือกันอีกมากจะต้องถ่วงดุลให้ดีระหว่างเศรษฐกิจกับผลกระทบต่อสังคม ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัว ถ้ามีการเล่นการพนันถือว่าศีลไม่เสมอกันนำไปสู่การหย่าร้าง ถ้ามั่วสุมอบายมุขทั้งคู่ลูกหลานจะเป็นอย่างไร ส่วนการบริหารจัดการก็จะเป็นปัญหาเพราะการพนันเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม การฟอกเงิน เนื่องจากพวกทุจริตติดสินบนส่วนใหญ่จะแปลงเงินเข้าไปให้รับรองว่าได้มาจากการพนัน เรื่องนี้สมัยที่เป็นกรรมการ ป.ป.ช.เคยเห็นมาแล้วผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงคนหนึ่งมีเรื่องถูกกล่าวหาทุจริตรับสินบนเมื่อดูเส้นทางการเงินพบว่าที่ปรึกษาเป็นคนทำบัญชีต่อสู้ข้อหาร่ำรวยผิดปกติว่าได้เงินมาจากการเล่นการพนันที่บ่อนในประเทศออสเตรเลียจึงต้องคิดกันให้ดี เรื่องนี้ต้องดำริชอบก่อน ถ้าไม่ชอบจะนำไปสู่ความพินาศ

นายวิชา ยังได้กล่าวถึงปัญหาข้อกฎหมายด้วยว่าหากคิดจะเร่งรีบผลักดันแต่ขาดกฎหมายควบคุมดูแลหรือยังไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายสำคัญเช่น พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยจะสร้างระบบตรวจสอบด้านการเงินอย่างไรเพราะมันจะมีการฟอกเงิน  การโยกย้ายถ่ายโอนเงิน  การทุจริต การฉ้อโกงซึ่งเป็นเรื่องยากมากในการสืบสวนสอบสวนหาข้อมูล ยิ่งหากให้มีการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายแล้วมีการนำระบบCrypto Currency เข้ามาใช้ก็จะยุ่งกันใหญ่

“ความจริงประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่ได้เปรียบอยู่แล้วควรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีธรรมชาติที่สวยงามทั้งภูเขา ทะเล นักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงก็ชอบมาเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต เราควรจะดูแลสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ให้สวยงามดีกว่าไม่ต้องไปพึ่งพา คาสิโนและEntertainment Complex หรอก”

เกียรติ สิทธีอมร

ส่วนนายเกียรติ สิทธีอมร .ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย แสดงความเห็นว่า เป็นโอกาส ที่ดีที่มีการศึกษาเรื่องนี้เพราะจะช่วยให้ประเทศไทยเข้าใจถึงผลดี ผลเสีย และความพร้อมที่จะจัดตั้งว่า เหมาะสมหรือไม่จากทุกภาคส่วน  มีหลายฝ่ายที่เห็นว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น จัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ภาษีที่จัดเก็บได้รัฐสามารถนำไปช่วยคนชรา ไปสนับสนุนด้านสาธารณสุข ก็ถือเป็นหลักการที่ดี แต่มีคำถามที่ สำคัญคือความมั่งคั่งดังกล่าวจะไปถึงประชาชนได้จริงหรือไม่ และที่บอกว่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นนั้น แท้จริงแล้วดีขึ้นสำหรับใครหรือดีเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้นนี่คือคำถามที่ต้องตอบให้ได้ เพราะมีผลการศึกษาชัดเจนจากหลายประเทศว่าจัดเก็บภาษีได้ แค่ 0.4-0.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  ส่วนรายได้จากการจ้างงานก็จะตกเป็นของแรงงานต่างด้าว เช่น ฟิลิปปินส์ และเมียนมาร์ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคนไทย

.ส.ปชป. ยังกล่าวด้วยว่า จากการศึกษาข้อมูลในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย  สหรัฐอเมริกา ชี้ไปในทางเดียวกันว่าการนำการพนันใต้ดินมาอยู่บนดินนั้น ไม่ทำให้การพนันใต้ดินหมดไป เพราะการพนันใต้ดินก็ยังอยู่แต่อาจลดลงบ้างและกลายเป็นว่าการพนันบนดินจะเป็นคนกลุ่มใหม่ที่มาเล่น  นอกจากนี้มีข้อมูลชัดเจนว่าทุกเมืองที่มีการตั้งคาสิโนจะมีอาชญากรรมเพิ่มขึ้นและต้องใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มขึ้นในการกำกับดูแลเพราะจะมีปัญหาสังคมเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีทั้งผลดีและผลกระทบอย่างมากและมาสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น จึงอยากให้ตั้งโจทย์ให้ชัดเจน ดังนั้นเมื่อรายงานฉบับนี้เข้าสภา ผมจะอภิปรายคัดค้านอย่างแน่นอน

ทางด้านสื่อมวลชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น เช่น นายศักดิ์ชัย พฤฒิภัค อดีตรองผู้อำนวยการ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส บอกว่า รายงานของคณะกรรมาธิการไม่มีการศึกษาเรื่องผลคอบแทนทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนและยังไม่มีการศึกษาเรื่องผลตอบแทนทางสังคม(SROI) ว่ามีอะไรบ้าง  นอกจากนี้หากมีการผลักดันให้การพนันออนไลน์ถูกกฏหมายก็จะสร้างปัญหามากขึ้น  ปัจจุบันนี้มีการให้เช่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นหมื่นๆเครื่องที่ แม่สอด ชายแดนเมียนมาร์ เพื่อสนับสนุนธุรกิจพนันออนไลน์และคาสิโนโดยใช้อินเตอร์เน็ตจากผู้ให้บริการประเทศไทย ดังนั้นหากควบคุมไม่ได้ก็จะเป็นปัญหาสูญญากาศเหมือนเรื่องกัญชาเสรี  

วิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ 

นางสาวรัชนีวรรณ  ดวงแก้ว หัวหน้าผู้ควบคุมรายการ คมชัดลึก เนชั่นทีวี กล่าวว่า .ส.หลายคน พยายามเสนอให้ประชาชนเห็นว่าถ้าเปิดคาสิโนแล้วจะเหมือนลาสเวกัส สร้างเม็ดเงินมหาศาล ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่ที่เป็นห่วงคือเยาวชนรุ่นใหม่อยู่ในโลกออนไลน์ ถูกหลอกไปทำงานในบ่อนออนไลน์ที่กัมพูชา เพราะค่านิยมงานสบายเงินดี  

ด้าน นายชูชาติ สว่างสาลี ผู้อำนวยการ สำนักข่าวเนตรทิพย์ออนไลน์ เป็นห่วงเรื่องการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย เช่นกรณีไฟไหม้ที่ผับเมาน์เทน บี สัตหีบ ชลบุรี ยังคุมไม่ได้เลย ถ้าหากตั้งคาสิโนถูกกฎหมายหรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะไม่แย่ไปกว่านี้หรือ 

ส่วน นายศักดา แซ่เอียว การ์ตูนนีสต์ เซียไทยรัฐ บอกว่า ประเทศไทยเราไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างเต็มที่ มีทั้งปัญหาการฟอกเงิน  การควบคุมสถานบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะมีการศึกษาเรื่องนี้ยาวนานแค่ไหนเชื่อว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้เพราะยังมีคนที่ได้ผลประโยชน์จากธุรกิจใต้ดินแต่ถ้าหากมีการตกลงกันได้ลงตัว เชื่อว่าเกิดขึ้นแน่นอนซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password