KISS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ยอดขายโต 14% กำไรสุทธิโต 59% จากไตรมาสก่อน รายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Rojukiss brand เครื่องสำอาง Sis2Sis รวมถึง Cleanser โตในตลาดต่างประเทศเผยครึ่งปีหลังเน้นเข้าสู่นวัตกรรมสุขภาพ พร้อมอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ0.06 บาท

นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 ว่าบริษัทฯมีรายได้จากการขาย 192 ล้านบาท เติบโต 14% ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 31 ล้านบาท เติบโต 59% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ รายได้โตหลักจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Rojukiss brand และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Sis2Sis ที่เพิ่มขึ้น 17.8% จากไตรมาสก่อน และมีสัดส่วน 97.3% ของรายได้จากขายทั้งหมด เป็นผลจากปรับกลยุทธ์การดำเนินงานในการรับมือสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภค รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค

โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นการใช้นวัตกรรมด้านความงามและสุขภาพ ที่เข้าถึงได้ง่าย รวมทั้งเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Marketing) และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วย KOL สื่อสารให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น สะท้อนรายได้ที่เติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ ในตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้เพิ่มขึ้น 10.4% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 54.7% จากปีก่อนหน้า จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า (Cleanser) ในช่วงไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในต่างประเทศ รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์ที่ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้รวดเร็ว โดยบริษัทฯ ยังคงมีแผนเพิ่มสินค้าหลากหลายให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง

ภาพรวมครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัวจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เริ่มอยู่ในการควบคุมได้ ภาคการบริโภคจะค่อยๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์ไว้ดังนี้

o เสริมความแข็งแกร่งโดยเน้นนวัตกรรมด้านสุขภาพ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจ ในการเป็นบริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพครบวงจรแห่งเอเชีย จากการเข้าลงทุนในบริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด (“HIB”) เพื่อขยายธุรกิจไปสู่นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ โดยมีแผนเปิดตัวสเปรย์พ่นจมูกสำหรับป้องกันหรือยับยั้งเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเป็นความร่วมมือกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) มหาวิทยาลัยศิลปากร และองค์การเภสัชกรรม ผลักดันงานวิจัยจากทีมแพทย์ไทยสู้โควิด-19 พัฒนานวัตกรรมโลก ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาการจดทะเบียนใบอนุญาตกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มวางจำหน่ายสินค้าได้ปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4

o การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมด้านความงามและสุขภาพ ที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ (Beauty Convenience) โดยบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ภายใต้ แบรนด์ Rojukiss, Best Korea และSis2Sis อย่างต่อเนื่อง

o ปรับกลยุทธ์การลงทุนการตลาดโดยเน้นทำสื่อผ่านสื่อ Digital สื่อสารกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งใช้ข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมาใช้ในการวัดผล (Measurement) ผ่านการทำวิจัยตลาดในเชิงลึก

o เร่งขยายผลการเติบโตทั้งตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศทั้งอินโดนีเซีย และเวียดนาม ผ่านแผนงานกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น และเพิ่มสินค้าที่หลากหลายเพื่อรองรับการเติบโต

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่าคณะกรรมการบริษัท ประชุมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัท งวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.06บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 30 สิงหาคม 2565 ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 14 กันยายน 2565.